ซูชิ ซาชิมิ : 2 เมนูปลาดิบนี้ของญี่ปุ่นต่างกันอย่างไร?

อาหารญี่ปุ่นทั้งซูชิ (Sushi) และซาชิมิ (Sashimi) เป็นเมนูปลาดิบจานโปรดของใครหลายคน เพราะมีรสชาติอร่อย ดีต่อสุขภาพ ร้านอาหารญี่ปุ่นจึงมีมากมายในไทย มีทั้งแบบร้านอาหารสาขาจากญี่ปุ่น ร้านที่คนไทยทำเอง รวมไปถึงภัตตาคารต่าง ๆ และเพื่อความอร่อยยิ่งขึ้น เราไปทำความรู้จักกันดีกว่าว่าซูชิ และซาชิมิแตกต่างกันอย่างไร และมีข้อควรระวังอะไรบ้างในการรับประทาน

ซูชิ (Sushi) คืออะไร?

ซูชิ (Sushi) คือ อาหารญี่ปุ่น เป็นข้าวปั้นมีหน้า โดยในข้าวมีส่วนผสมของน้ำส้มสายชู มีการวางวาซาบิบนข้าวและวางหน้าลงไป หน้าของซูชิมีหลากหลายตั้งแต่ปลาดิบ ปลาปรุงสุก อาหารทะเลต่าง ๆ ผัก ไข่ เห็ด แรกเริ่มเดิมทีซูชิเกิดจากความต้องการถนอมอาหารของคนญี่ปุ่น แต่เพราะเป็นอาหารที่รับประทานง่าย มีหลากหลายแบบ และรสชาติอร่อย จึงเป็นที่นิยมในหลาย ๆ ประเทศ ประเภทของซูชิที่เราพบได้บ่อย ๆ และเป็นที่นิยมมีดังนี้ค่ะ

1. นิงิริซูชิ (Nigiri Sushi)

ซูชิประเภทนี้มีลักษณะเป็นข้าวปั้นผสมน้ำส้มสายชูเป็นรูปวงรีพอดีคำ โปะวาซาบิเล็กน้อยตามด้วยเนื้อประเภทต่าง ๆ เช่น ปลาดิบ ปลาปรุงสุก อาหารทะเล ไข่หวาน อาจมีการพันสาหร่ายเป็นเส้นบาง ๆ ไว้ด้วยนะคะ เป็นซูชิที่ได้รับความนิยมที่สุด พบได้ทั้งร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วไปและภัตตาคารหรูค่ะ

2. มากิซูชิ (Magi Sushi)

มากิซูชิ หรือ ข้าวปั้นห่อสาหร่าย ปัจจุบันเรียกกันอีกชื่อว่า “ซูชิโรล” ค่ะ วิธีทำให้วางสาหร่ายแผ่นใหญ่ลงบนแผ่นไม้ไผ่ แผ่ข้าวให้ทั่ว ใส่เนื้อหรือเนื้อปลา ม้วนให้เข้ากัน จะได้เป็นซูชิทรงกระบอกยาว จากนั้นตัดหั่นเป็นแว่นให้พอดีคำ ซึ่งมากิซูชิมีทั้งแบบห่อสาหร่ายไว้ด้านนอกกับวางสาหร่ายไว้ด้านใน

3. เทมากิซูชิ (Temaki Sushi)

เทมากิซูชิมีลักษณะคล้ายคลึงกับมากิซูชิค่ะ แต่กรรมวิธีการห่อจะห่อให้เป็นรูปทรงกรวยเพื่อให้ถือง่าย จึงได้รับความนิยมไม่แพ้กัน

4. โอชิซูชิ (Oshi Sushi)

โอชิซูชิ คือซูชิในแบบคันไซที่จะนำข้าวและหน้าซูชิเรียงลงในกล่องแล้วกดจนออกมาเป็นรูปสี่เหลี่ยม จากนั้นหั่นให้เป็นขนาดพอดีคำ มีลักษณะคล้ายนิกิริซูชิ แต่จะมีทรงสี่เหลี่ยมดูเป็นเอกลักษณ์และแปลกตากว่านั่นเองค่ะ

5. นาเระซูชิ (Nare Sushi)

นาเระซูชิเกิดจากการนำปลา ข้าวสวย และเกลือ มาหมักจนเป็นข้าวหมักและปลารสเปรี้ยวเหมือนปลาส้มบ้านเราค่ะ

6. ชิราชิซูชิ (Chirashi Sushi)

คนไทยรู้จักชิราชิซูชิกันในนามข้าวหน้าปลาดิบนั่นเองค่ะ โดยใช้ข้าวญี่ปุ่นคลุกน้ำส้มสายชู จัดเรียงหน้าด้วยปลาดิบ อาหารทะเลต่าง ๆ ผัก ไข่หวาน ซึ่งในแต่ละท้องที่จะแตกต่างกันไป เช่น ชิราชิซูชิของแถบคันไซไม่มีการจัดเรียงอย่างพิถีพิถันนัก โรยด้วยสาหร่ายและผักตามใจชอบ

7. ไคเซ็นด้ง (Kaisen Don)

ไคเซ็นด้ง คือ ข้าวราดหน้าปลาดิบ คล้ายกับชิราชิซูชิ แตกต่างกันตรงไคเซ็นด้งใช้ข้าวสวยธรรมดา ไม่ใช่ข้าวญี่ปุ่นผสมน้ำส้มสายชูค่ะ จัดวางด้วยปลาดิบและอาหารทะเลต่าง ๆ เช่น มากุโระ หอยเชลล์ แซลมอน หมึก กุ้ง หมึกยักษ์ ไข่แซลมอน ไข่หอยเม่น เสิร์ฟพร้อมกับไข่หวาน ใบโอบะ และวาซาบิ

ซาชิมิ (Sashimi) คืออะไร?

ซาชิมิ (Sashimi) คือ อาหารญี่ปุ่นที่ทำด้วยเนื้อสัตว์สด ๆ หรือปลาดิบ แล่เป็นชิ้น จากนั้นจัดจานให้สวยงาม เป็นหนึ่งในอาหารญี่ปุ่นที่มีกระบวนการทำแบบประณีต รับประทานคู่กับโชยุ วาซาบิ ขิงดอง หัวไชเท้าขูดเส้น และใบชิโสะ หลายคนอาจเข้าใจว่าซูชิกับซาชิมิคือสิ่งเดียวกัน แท้จริงแล้วแตกต่างกันตรงที่ซาชิมิไม่รับประทานกับข้าวนั่นเองค่ะ

ข้อควรระวังในการทานซูชิและซาชิมิ

1. การผสมโชยุและวาซาบิเข้าด้วยกันถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำในการรับประทานซูชิค่ะ เพราะจะทำให้ไม่ได้รับรสชาติแบบที่เชฟต้องการให้เราสัมผัส เพราะฉะนั้นถ้าอยากได้รสวาซาบิให้คีบวาซาบิขึ้นมาแตะซาชิมิ หรือหน้าซูชิเล็กน้อย แล้วค่อยนำไปจิ้มโชยุค่ะ
2. การคีบซูชิจิ้มโชยุ ให้หันด้านที่เป็นหน้าซูชิเข้าจิ้ม ถ้าจิ้มด้วยด้านที่เป็นข้าวจะทำให้ข้าวแตกตัว เกิดความยุ่งยากในการรับประทานค่ะ
3. ไม่ควรดึงแต่ส่วนหน้าซูชิจิ้มลงโชยุนะคะ เพราะเป็นการเสียมารยาทและจะทำให้เชฟเกิดความสงสัยว่าซูชิที่ทำมีปัญหาอะไรหรือไม่จึงต้องแยกชิ้นส่วนรับประทาน
4. ซูชิที่ห่อมากับสาหร่าย การนำไปจิ้มโชยุอาจทำให้ข้าวแตกตัวได้ง่าย วิธีคือนำขิงจิ้มโชยุแล้วนำไปวางบนหน้าซูชิให้โชยุซึมลงไปกับตัวซูชิค่ะ

ส่งท้าย

เมื่อได้รู้ความต่างของซูชิและซาชิมิแบบนี้แล้ว ใครที่ชอบรับประทานเฉพาะเนื้อปลาดิบก็จะได้เลือกรับประทานแต่ซาชิมิ เพราะจะได้ทานให้จุใจ ไม่ต้องมีข้าวมากวนใจ และไม่ต้องกลัวเสียมารยาทกับเชฟแบบตอนทานซูชิแล้วอยากเลือกทานแต่ปลาดิบ แต่ใครชอบรสข้าวที่เปรี้ยวเล็กน้อยแบบข้าวซูชิ เมื่อรับประทานพร้อมปลาดิบก็ได้รสชาติกลมกล่อม อิ่มท้อง ก็เลือกทานซูชิได้ตามประเภทที่ชอบเลยค่ะ

---