ทุกครั้งที่ไปญี่ปุ่นของฝากยอดฮิตนอกจากขนมแล้วก็มักจะเป็นของเล่นชิ้นเล็ก ๆ ที่พกพาสะดวกไม่กินเนื้อที่อย่างเช่น กาชาปอง (Gashapon) คนที่ไม่คุ้นชินกับการสะสมของเล่นจากญี่ปุ่นก็คงจะสงสัยว่า กาชาปองคืออะไร? ทำไมถึงเรียกกันว่ากาชาปองล่ะ? แล้วมันดีอย่างไรทำไมใคร ๆ ก็พูดถึงกัน
กาชาปอง (Gashapon) คืออะไร?
กาชาปอง (Gashapon) ガチャポン คือ ของเล่นขนาดเล็กที่ส่วนใหญ่มักจะเป็นฟิกเกอร์โมเดลจากการ์ตูนอนิเมะหรือเกม สำหรับเอาไว้ตั้งโชว์หรือเชยชม สินค้าจะถูกบรรจุเอาไว้ในลูกบอลพลาสติกขนาดเล็กที่ถูกบรรจุอยู่ในตู้หมุนกาชาปองอีกที โดยเราจะได้รับสินค้าแบบสุ่ม ไม่รู้ว่าจะได้ตัวโมเดลแบบไหนมา
คำว่ากาชาปองนั้นเป็นคำภาษาญี่ปุ่นมาจากคำว่า กาชา ガチャ (Gasha) เป็นคำเลียนเสียงเวลาเราเปิดลูกบอลกาชาปอง ภาษาไทยก็น่าจะเป็นเสียงดัง “แกรก หรือ ป๊อก” แต่สำหรับคนญี่ปุ่นเขาได้ยินเสียงว่า “กาชะ (Gasha)” ส่วนคำว่า ปอง ポン (Pon) นั้นมาจากเสียงของลูกบอลที่ตกลงมาในช่องรับสินค้ามีเสียงดัง “ป๊อง” นั่นเอง จึงเป็นการสร้างคำใหม่ขึ้นมาเรียกว่า “กาชาปอง”
ในกาชาปองมีอะไร? ทำไมถึงได้รับความนิยม?
ในกาชาปองนั้นมีสินค้าที่หลากหลายมาก แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นของเล่นของสะสมอย่าง ฟิกเกอร์โมเดลจากเกมหรือการ์ตูนยอดฮิตเพราะถูกผลิตขึ้นมาจากบริษัทของเล่น แต่ต่อมาเมื่อกาชาปองเป็นที่รู้จักและเป็นกระแสมากขึ้นก็เริ่มมีสินค้าแบบอื่นเข้ามาด้วย เช่น พวงกุญแจ หน้ากากอนามัย กระเป๋าผ้า เครื่องประดับ จดหมายบอกรัก สูตรอาหาร ไปจนถึงสินค้า 18+ อย่างกางเกงในเลยทีเดียว
ด้วยความที่เป็นสินค้าราคาถูกและคุณภาพดีในระดับหนึ่ง ประกอบกับที่พักอาศัยในประเทศญี่ปุ่นนั้นค่อนข้างจะมีพื้นที่จำกัด การซื้อของเล่นชิ้นเล็กมาประดับในบ้านไม่กินพื้นที่จึงได้รับความนิยม
นอกจากนี้ ด้วยราคาที่ไม่แพงมากของกาชาปองทำให้ออกไลน์สินค้าให้ผู้คนได้สะสมกันตลอด และสิ่งสำคัญที่สุดคือความสนุกในการหมุนตู้กาชาปอง ความตื่นเต้นเหมือนกับการเล่นการพนันเพื่อวัดดวงเล็กๆ เป็นสิ่งที่คนญี่ปุ่นชอบกัน
กาชาปองมีที่มาอย่างไร?
แรกเริ่มเดิมทีนั้นกาชาปองได้ต้นแบบมาจากตู้ขายสินค้าของอเมริกา มาจากตู้หมุนขายของเล่นราคาถูก ของเล่นเหล่านั้นเป็นสินค้าคุณภาพต่ำราคาถูกโดยมีเด็ก ๆ เป็นกลุ่มเป้าหมาย ในช่วงปี 1960 ริวโซ ชิเกะตะ (Ryuzo Shigeta) เขาเป็นผู้ริเริ่มนำตู้กาชาปองเครื่องแรกวางจำหน่ายในญี่ปุ่น เขาจึงถูกขนานนามว่าเป็นบิดาแห่งกาชาปองของญี่ปุ่น
ต่อมาในปี 1977 บริษัทของเล่นยักษ์ใหญ่ Bandai ได้ลงทุนผลิตสินค้าของเล่นกาชาปองให้หลากหลายขึ้นและวางจำหน่ายทั่วประเทศ จนกลายเป็นสินค้ายอดฮิตที่หลากหลายบริษัทก็ทำตามต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน
พัฒนาการของกาชาปองยังคงไม่หยุดนิ่ง ในยุคดิจิตอลกาชาปองถูกเปลี่ยนรูปแบบมาเป็นเกมมือถือที่เรียกกันว่า “เกมกาชา (Gasha game)” คือระบบหลักของเกมจะเน้นไปที่การสุ่มตัวละคร โดยมี Item ในเกมให้กับผู้เล่นโดยใช้เงินจริงหรือเงินในเกมเป็นค่าหมุนกาชาปองในแต่ละครั้ง ซึ่งธุรกิจโมเดลนี้ได้ประสบความสำเร็จอย่างมากยิ่งกว่ากาชาปองแบบดั้งเดิมเสียอีก
ตู้กาชาปองมีวิธีเล่นอย่างไร?
วิธีหมุนตู้กาชาปองนั้นง่ายมาก เพราะออกแบบมาให้เด็ก ๆ เข้าถึงได้ จึงไม่มีวิธีการที่ซับซ้อนอะไร เพียงแค่หยอดเหรียญตามมูลค่าของสินค้าที่ระบุไว้ โดยส่วนมากแล้วจะมีราคาตั้งแต่ 200-500 เยน
หลายร้านค้าที่ญี่ปุ่นจะมีตู้สำหรับแลกเหรียญอัตโนมัติอยู่ด้วย เราสามารถแลกเหรียญได้เอง ไม่ต้องมีปัญหาในการสื่อสารกับพนักงานที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้
เพียงแค่หยอดเหรียญในตู้ที่ต้องการ หมุนแกนบิดบนหน้าตู้ไปทางขวาจนสุดเราจะได้ยินเสียงของลูกบอลกลิ้งลงมาที่ช่องรับของ ก็เปิดหยิบลูกบอลออกมารอลุ้นของข้างในกันได้เลย
หาตู้กาชาปองได้ที่ไหนบ้าง?
ในประเทศญี่ปุ่น
ที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นกาชาปองเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมในทุกเพศทุกวัย เราจะเจอตู้กาชาปองในแทบจะทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นสถานีรถไฟใต้ดิน ห้างสรรพสินค้า ร้านหนังสือ ร้านสะดวกซื้อ และแน่นอนว่าจุดที่มีกาชาปองอยู่เยอะที่สุดมักจะเป็นร้านขายของเล่นของสะสม โซนขายของเล่นตามห้างอย่าง Big camera, Yodobashi, Donki หรือร้านเกมอย่าง SEGA center, Namco, Konami เป็นต้น
ตู้กาชาปองบางตู้ก็ไม่ได้มีจำนวนเยอะ หรือบางตู้จะมีขายในเฉพาะสถานที่บางแห่งเท่านั้น ดังนั้นถ้าบังเอิญไปเดินเจอของในตู้กาชาปองที่ถูกใจก็ให้กดไปเลยดีกว่าเพราะเราอาจจะไม่ได้เจออีกทั้งทริปการเดินทางก็เป็นได้
หากคิดว่าตัวเองดวงไม่ดีกดไปก็ไม่ได้ตัวที่ชอบแน่ ๆ แล้วล่ะก็ มีอีกทางเลือกหนึ่งคือ ตามร้านขายโมเดลฟิกเกอร์ในย่านนักท่องเที่ยวอย่าง Akihabara, Denden town, Ikebukuro ก็มักจะมีร้านขายโมเดลฟิกเกอร์ที่เอาของในตู้กาชาปองมาแพคขายแบบแยกตัวเลย เราสามารถเลือกตัวที่ชอบได้โดยไม่ต้องไปเสี่ยงดวงหมุนตู้กาชาปอง แต่ราคาจะแพงกว่าราคาหน้าตู้ซึ่งขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาดด้วย
ในประเทศไทย
สำหรับในประเทศไทยเองก็มีตู้กาชาปองให้หมุนเช่นกัน โดยจะพบได้ตามห้างขนาดใหญ่ที่มีโซนขายของเล่นเด็ก ร้านค้าจากญี่ปุ่นอย่าง Donki และร้าน Animate ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 100-200 บาทแล้วแต่ประเภทสินค้า
ถ้าไม่อยากเสี่ยงดวง ตามร้านตู้เช่าขายของเล่นในไทยอย่างแถวสะพานเหล็ก เมก้าบูรพา ก็มีใส่ตู้ขายอยู่เหมือนกันโดยที่ราคาจะค่อนข้างแพงหน่อยประมาณ 200 บาทขึ้นไปแล้วแต่ความนิยมเช่นกัน
กาชาปองของแท้ดูอย่างไร?
ในที่ญี่ปุ่นนั้นกาชาปองทั้งหมดเป็นของแท้แน่นอน เพราะกาชาปองราคาไม่แพงหาง่ายและคนญี่ปุ่นก็ไม่สนับสนุนของลอกเลียนแบบด้วย แต่ในไทยนั้นมีกาชาปองของปลอมขายอยู่เยอะมาก ก็อยากจะแนะนำวิธีการดูว่าอันไหนกาชาปองของแท้หรือเทียมกันเอาไว้สักหน่อย
โดยทั่วไปแล้วโมเดลกาชาปองของแท้จะมีการลงสีที่เรียบเนียนกว่า ตัววัสดุมีความอ่อนนุ่มกว่าและมีผิวที่เรียบเนียน โดยจุดสังเกตที่ชัดคือบริเวณใบหน้าของตัวละคร การลงสีจะมีความประณีตใกล้เคียงกับรูปโฆษณาหน้าตู้ สีไม่ผิดเพี้ยน ใบแนบสินค้าพิมพ์ไม่คมชัดสีซีด
นอกจากนี้อีกจุดหนึ่งที่ชัดเจนคือ ราคาสินค้าหากมีราคาต่ำกว่า 100-150 บาทก็มีแนวโน้มว่าจะเป็นของเลียนแบบจากจีนราคาถูก โดยส่วนมากจะแพครวมกันใส่ถุงใหญ่ขายในราคาที่ถูกกว่าโมเดลกาชาปองทั่วไปในท้องตลาด หากไม่แน่ใจว่าเป็นของแท้หรือของปลอมก็ลองเดินดูหลาย ๆ ร้านดูก่อนเพื่อเทียบเคียงคุณภาพสินค้าและราคาก็ได้
ส่งท้าย
เรียกได้ว่า กาชาปอง (Gashapon) นั้นกลายเป็น Soft Power ของประเทศญี่ปุ่นไปสู่ทั่วโลกแล้ว ใครก็ตามที่มาเที่ยวญี่ปุ่นก็ต้องเสียเงินให้กับการหมุนกาชาปองสักครั้งสองครั้ง (หรือหลายสิบครั้งเพราะมันเพลินมากกก) เอาเป็นว่าถ้าได้ไปญี่ปุ่นก็ลองหยอดดูแล้วจะรู้ว่า “ขอหมุนครั้งสุดท้ายแล้วนะ” ไม่มีอยู่จริง