Home เที่ยวญี่ปุ่น 20 ปราสาทญี่ปุ่นสวยๆ จากทั่วประเทศญี่ปุ่นที่ต้องมา Check-in!
ปราสาทญี่ปุ่นสวยๆ

20 ปราสาทญี่ปุ่นสวยๆ จากทั่วประเทศญี่ปุ่นที่ต้องมา Check-in!

by Faiz
5309 views

ในอดีตปราสาทญี่ปุ่นเป็นสถาปัตยกรรมที่ได้รับการสร้างขึ้นเพื่อเป็นป้อมปราการ ซึ่งญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีปราสาทเยอะมาก และยังมีปราสาทเก่าแก่หลายแห่งที่เหลือรอดจากสงครามและภัยพิบัติ แม้จะต้องบูรณะซ่อมแซมหลายครั้ง แต่ก็ยังมีเค้าโครงเดิม และมีความสง่างามไม่เปลี่ยนแปลง ให้คนรุ่นหลังได้ชื่มชมอย่างในบทความนี้ เราจะขอแนะนำปราสาทญี่ปุ่นสวยๆ น่าเที่ยวไล่ตั้งแต่เหนือจรดใต้ของประเทศ ไปดูกันดีกว่าว่ามีที่ไหนห้ามพลาดไป Check-in บ้าง

20 ปราสาทญี่ปุ่นที่ห้ามพลาด!

1. ปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle)

 — จังหวัดอาโอโมริ (Aomori)

( แผนที่)

ปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle)

ปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle) ตั้งอยู่ที่เมืองฮิโรซากิ (Hirosaki) ในจังหวัดอาโอโมริ (Aomori) สร้างขึ้นโดย สึการุ โนบุฮิระ ผู้ปกครองท้องถิ่น เมื่อปี ค.ศ. 1609 ตัวปราสาทมี 5 ชั้น แต่ต่อมาปี ค.ศ. 1627 ได้เกิดเหตุไฟไหม้ ทำให้ปราสาทถูกเผาทำลายและถูกปล่อยทิ้งเกือบ 200 ปี ก่อนได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1810 และเหลือเพียง 3 ชั้น ซึ่งเป็นตัวปราสาทที่เราได้เห็นกันจนถึงปัจจุบัน

ปราสาทฮิโรซากิตั้งอยู่ใจกลางสวนฮิโรซากิ (Hirosaki Park) ที่มีพื้นที่ครอบคลุมกว่า 500,000 ตารางเมตร มีพันธุ์ไม้มากมาย ช่วงฤดูใบไม้ผลิกับฤดูใบไม้ร่วงจึงมีความสวยงามมาก ในส่วนของตัวปราสาท ล้อมรอบด้วยคูคลองถึง 5 แบบ ซึ่งแต่ละคูคลองมีสะพานเชื่อมถึงกัน แต่ละแห่งให้บรรยากาศแตกต่างกันไป นอกจากนี้ยังมีหอคอยยากุระ 3 หลังให้ได้เที่ยวชม ปราสาทฮิโรซากิจึงนับเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของจังหวัดอาโอโมริ

⇒ การเดินทางมาปราสาทฮิโรซากิ

  • นั่งรถบัส Konan Bus หรือ Dotemachi Loop Bus จากหน้าสถานี Hirosaki มาลงที่ป้าย Shiyakusho-mae ใช้เวลาประมาณ 15 นาที

หมายเหตุ

  • ปัจจุบัน มีการย้ายตัวปราสาทออกไปจากที่ตำแหน่งเดิมประมาณ 70 เมตร เพื่อบูรณะฐานกำแพงหินของปราสาท

2. ปราสาทสึรุกะ (Tsuruga Castle)

— จังหวัดฟุคุชิมะ (Fukushima)

( แผนที่)

ปราสาทสึรุกะ (Tsuruga Castle)

 “สึรุกะ (Tsuruga)” แปลว่า “นกกระเรียน” คนไทยจึงรู้จัก ปราสาทสึรุกะ (Tsuruga Castle) ในอีกชื่อว่า “ปราสาทนกกระเรียน” ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองไอสุวากามัตสึ (Aizu-Wakamatsu) ในจังหวัดฟุคุชิมะ (Fukushima) สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1384 ตัวปราสาทมี 7 ชั้น แต่ถูกทำลายเสียหายเมื่อปี ค.ศ. 1874 หลังสงครามโบชิน และได้รับบูรณะใหม่ให้มี 5 ชั้นเมื่อปี ค.ศ. 1965

ตัวปราสาทสึรุกะมีสีขาวสะอาดตา โดดเด่นด้วยหลังคาที่ปูด้วยกระเบื้องสีแดงแบบดั้งเดิม ด้านในปราสาทเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้คนทั่วไปเข้าชมวิถีชีวิตของซามูไร และศิลปวัฒนธรรมสมัยก่อน ทั้งนี้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ต้นซากุระที่ล้อมรอบปราสาทถึง 1,000 ต้นจะบานสะพรั่งสวยงาม ส่วนฤดูหนาวหิมะจะปกคลุมหลังคาสีแดงทำให้เป็นปราสาทสีขาวโพลนทั้งหลัง และมีการจัดแสดงไฟอย่างงดงามในช่วงกลางคืนให้ได้รับชมบรรยากาศที่งดงามแตกต่างจากตอนกลางวันด้วย

⇒ การเดินทางมาปราสาทสึรุกะ

  • นั่งรถบัส Aizu Loop Bus จากสถานี Aizu-Wakamatsu มาลงที่ป้าย Tsurugajo Iriguchi ใช้เวลาประมาณ 10 นาที

3. ปราสาทโทยาม่า (Toyama Castle)

— จังหวัดโทยาม่า (Toyama)

( แผนที่)

ปราสาทโทยาม่า (Toyama Castle)

ปราสาทโทยาม่า (Toyama Castle) ตั้งอยู่ใจกลางจังหวัดโทยาม่า (Toyama) ซึ่งเป็นเมืองติดทะเลของญี่ปุ่น ตัวปราสาทล้อมรอบด้วยแม่น้ำมัตสึคาวะ (Matsukawa) ทำให้ตัวปราสาทเหมือนลอยน้ำอยู่ และได้รับการเรียกว่าปราสาทลอยน้ำ สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1543 และได้รับความเสียหายจากสงครามกลางเมืองเพื่อแย่งชิงอำนาจอยู่หลายครั้ง ก่อนที่ปี ค.ศ. 1954 จะได้รับการบูรณะให้มีขนาดใหญ่และทันสมัยขึ้น

ตัวปราสาทโทยาม่ามี 4 ชั้น ภายในมีพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นให้ได้เยี่ยมชมประวัติศาสตร์ของปราสาท และหอศิลปะที่จัดแสดงงานศิลปะยุคโบราณ รอบ ๆ ปราสาทเป็นสวนสาธารณะที่ช่วงฤดูใบไม้ผลิสามารถมาชมซากุระได้

⇒ การเดินทางมาปราสาทโทยาม่า

  • เดินจากสถานี Toyama ใช้เวลาประมาณ 10 นาที

4. ปราสาทคานาซาว่า (Kanazawa Castle)

— จังหวัดอิชิคาว่า (Ishikawa)

( แผนที่)

ปราสาทคานาซาว่า (Kanazawa Castle)

ปราสาทคานาซาว่า (Kanazawa Castle) ตั้งอยู่ที่เมืองคานาซาว่า (Kanazawa) ในจังหวัดอิชิคาว่า (Ishikawa) ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1583 เป็นที่อยู่ของตระกูลมาเอดะที่ปกครองแคว้นคากะเป็นเวลายาวนานกว่า 280 ปี โดยปราสาทคานาซาว่าถูกเพลิงไหม้ถึง 2 ครั้ง คือในปี ค.ศ. 1602 แต่ไม่ได้รับการบูรณะ จนกระทั่งถูกเหตุเพลิงไหม้อีกครั้งในปี ค.ศ. 1759 ที่เพลิงสร้างความเสียหายเกือบทั้งหลังจึงได้รับการบูรณะสร้างใหม่

ปราสาทคานาซาว่ามีประตูทางเข้าหลักที่เป็นเค้าโครงของสถาปัตยกรรมที่หลงเหลือจากเพลิงไหม้ คือ ประตู lshikawa-mon ตรงข้ามกับสวนเคนโรคุเอน (Kenrokuen Garden) ส่วนอาคารต่าง ๆ ด้านในคือหอคอย Hishi Yagura และ  Hashizume-mon Tsuzuki Yagura โดยมีโกดัง Gojikken Nagaya เป็นอาคารเชื่อม ด้านในเป็นอาคารไม้ขนาดใหญ่ซึ่งมีป้ายอธิบายส่วนประกอบของปราสาทเป็นภาษาอังกฤษด้วย

⇒ การเดินทางมาปราสาทคานาซาว่า

  • นั่งรถบัส Kanazawa Loop Bus หรือ Kenrokuen Shuttle Bus จากสถานี Kanazawa มาลงที่ป้าย Kenrokuen Garden/Kanazawa Castle Park

5. ปราสาทมัตสึโมโต้ (Matsumoto Castle)

 — จังหวัดนากาโน่ (Nagano)

( แผนที่)

ปราสาทมัตสึโมโต้ (Matsumoto Castle)

ปราสาทมัตสึโมโต้ (Matsumoto Castle) ตั้งอยู่ที่เมืองมัตสึโมโต้ (Matsumoto) ในจังหวัดนากาโน่ (Nagano) เป็นปราสาทที่มีสีขาวและสีดำตัดกัน และอาคารทั้งสองด้านข้างปราสาทดูคล้ายปีก จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า ปราสาทอีกา (Crow Castle) สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1593 เพื่อใช้เป็นที่หลบภัยและวางแผนการสู้รบของขุนนางตระกูลอิชิกาว่า รอบปราสาทจึงมีกำแพงสูงใหญ่และคูน้ำล้อมรอบ แต่ท้ายที่สุดถูกกองทัพทาเคดะยึดครอง และมีผู้ปกครองปราสาทคือโทคุงาว่า อิเอยาสุ

ปราสาทมัตสึโมโต้เป็นหนึ่งในปราสาทไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติประจำชาติ ภายในปราสาทมี 6 ชั้น เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมสิ่งของเครื่องใช้ในสมัยก่อน ในส่วนของสวนมีต้นซากุระอยู่ทั่วบริเวณปราสาท เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิจึงเป็นหนึ่งในจุดชมซากุระที่สวยงาม

⇒ การเดินทางมาปราสาทมัตสึโมโต้

  • เดินจากสถานี Matsumoto ใช้เวลาประมาณ 15 นาที

6. ปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle) 

—  จังหวัดไอจิ (Aichi)

( แผนที่)

ปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle)

ปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle) ถือเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองนาโกย่า (Nagoya) ในจังหวัดไอจิ (Aichi) ตัวปราสาทสร้างจากฐานหินขนาดใหญ่ ยอดปราสาทประดับด้วย Kinshachi สัตว์ในตำนานที่ตัวเป็นปลาคาร์ฟและหัวเป็นเสือ ปราสาทนาโกย่าสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1612 ตามคำสั่งของโชกุนโทคุงาว่า อิเอยาสุ เพื่อเป็นฐานอำนาจและป้องกันการโจมตีจากเมืองโอซาก้า แต่ถูกเพลิงไหม้เสียหายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนจะได้รับการบูรณะใหม่ในปี ค.ศ. 1959

ตัวปราสาทมีทั้งหมด 7 ชั้น ภายในเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงข้าวของเครื่องใช้ของซามูไรในสมัยก่อน นอกปราสาทเป็นสวนและคูเมืองซึ่งเหมาะสำหรับการชมซากุระบานในช่วงมีนาคมถึงเดือนเมษายน

⇒ การเดินทางมาปราสาทนาโกย่า

  • นั่งรถไฟใต้ดินสาย Meijo Line มาลงที่สถานี Shiyakusho แล้วเดินต่ออีกประมาณ 9 นาที

หมายเหตุ

  • ตัวอาคารหลักของปราสาทมีการปิดปรับปรุงชั่วคราวไปจนถึงปี ค.ศ. 2022 จึงไม่สามารถเข้าไปชมภายในได้

7. ปราสาทอินุยามะ (Inuyama Castle)

—  จังหวัดไอจิ (Aichi)

( แผนที่)

ปราสาทอินุยามะ (Inuyama Castle)

ปราสาทอินุยามะ (Inuyama Castle) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำคิโซ (Kiso River) ในเมืองอินุยามะ (Inuyama) ของจังหวัดไอจิ (Aichi) สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1537 โดยโอดะ โนบุยาสึ อาของโอดะ โนบุนางะ แต่ด้วยผลกระทบของสงครามทำให้การก่อสร้างล่าช้า และแล้วเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1600 ปราสาทอินุยามะเป็นป้อมปราการปราสาทไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติของชาติเมื่อปี ค.ศ. 1935

ปราสาทอินุยามะเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศและเยี่ยมชมสถาปัตยกรรมในสมัยเอโดะ โครงสร้างปราสาททำจากหินและไม้ ส่วนของไฮไลท์คือหอคอยที่สามารถขึ้นไปชมวิวรอบ ๆ ปราสาทที่เป็นวิวของแม่น้ำคิโซได้ ซึ่งแต่เดิมเป็นห้องสำหรับส่องสังเกตการณ์ข้าศึกนั่นเอง

⇒ การเดินทางมาปราสาทนาโกย่า

  • เดินจากสถานี Inuyamayu ใช้เวลาประมาณ 15 นาที

8. ปราสาทอิงะ อุเอะโนะ (Iga Ueno Castle)

— จังหวัดมิเอะ (Mie)

( แผนที่)

ปราสาทอิงะ อุเอะโนะ (Iga Ueno Castle)

ปราสาทอิงะ อุเอะโนะ (Iga Ueno Castle) หรือเรียกว่า ปราสาทอุเอโนะ (Ueno Castle) ตั้งอยู่ที่เมืองอิงะ (Iga) ที่เป็นเมืองบ้านเกิดของนินจาในจังหวัดมิเอะ (Mie) โดยในปี ค.ศ. 1608 โชกุนโทคุงาว่าเป็นผู้แต่งตั้งโทโด ทาคาโทระ สถาปนิกสร้างปราสาทชื่อดังในยุคเซ็นโกคุให้สร้างปราสาทอิงะ อุเอโนะจนแล้วเสร็จ

ตัวปราสาทอุเอโนะมีความสง่างามมาก เพราะเป็นปราสาทสีขาว 3 ชั้นสูงถึง 30 เมตร จึงถือเป็นป้อมปราการที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น และตัวปราสาทตั้งอยู่บนกำแพงหิน รูปร่างของหลังคาปราสาทดูคล้ายนกฟินิกซ์กำลังหุบปีก จึงได้รับการเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ปราสาทนกฟินิกซ์ขาว” นั่นเอง

⇒ การเดินทางมาปราสาทอิงะ อุเอะโนะ

  • เดินจากสถานีรถไฟ Uenoshi ใช้เวลาประมาณ 10 นาที

9. ปราสาทฮิโกเนะ (Hikone Castle)

— จังหวัดชิกะ (Shiga)

( แผนที่)

ปราสาทฮิโกเนะ (Hikone Castle)

ปราสาทฮิโกเนะ (Hikone Castle) ในเมืองฮิโกเนะ (Hikone) ของจังหวัดชิกะ (Shiga) ตั้งอยู่ใกล้ทะเลสาบบิวะ (ฺLake Biwa) ทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เป็น 1 ใน 4 ปราสาทของญี่ปุ่นที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นสมบัติของชาติ และยังเป็นปราสาทที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO อีกด้วย

ตรงส่วนฐานเนินปราสาทแห่งนี้มีพิพิธภัณฑ์ปราสาทฮิโกเนะให้เข้าเยี่ยมชม ส่วนตัวปราสาทฮิโกเนะมี 3 ชั้น บนหอคอยของปราสาทสามารถชมทิวทัศน์อันงดงามรอบประสาทได้ ไม่ว่าจะเป็นภูเขาอิบูกิ และทะเลสาบบิวะ และจะมีบรรยากาศแตกต่างกันไปตามแต่ละฤดู ซึ่งฤดูที่ไม่ควรพลาดคือฤดูใบไม้ผลิที่ต้นซากุระรอบปราสาทจะออกดอกบานสะพรั่ง และฤดูใบร่วงจะมีใบไม้เปลี่ยนสีสวยงาม ซึ่งทั้งสองฤดูนี้จะมีการประดับแสงไฟตอนกลางคืนด้วย

⇒ การเดินทางมาปราสาทฮิโกเนะ

  • เดินจากสถานีรถไฟ Hikone ใช้เวลาประมาณ 15 นาที

10. ปราสาทนิโจ (Nijo Castle)

— จังหวัดเกียวโต (Kyoto)

( แผนที่)

ปราสาทนิโจ (Nijo Castle)

ปราสาทนิโจ (Nijo Castle) ตั้งอยู่ที่จังหวัดเกียวโต (Kyoto) เป็นหนึ่งในปราสาทที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1569 ตามคำสั่งของของโอดะ โนบุนางะ ก่อนที่โชกุนโทคุงาวะ อิเอยาสุจะสั่งให้สร้างต่อจนแล้วเสร็จเพื่อใช้เป็นที่พักและสถานที่ราชการ โดยปราสาทสร้างจากไม้ทั้งหมด ไม่มีฐานเป็นหินเหมือนปราสาทอื่น ๆ ของญี่ปุ่น ในส่วนของตัวป้อมปราการเรียงตัวเป็นวงแหวนสองชั้น ภายในมีการปิดฝาผนังด้วยทองเพื่อแสดงอำนาจของโชกุนในสมัยเอโดะ

ต่อมาในปี ค.ศ. 1867 หลังการล่มสลายของโชกุนตระกูลโทคุงาวะ  ปราสาทนิโจกลายเป็นพระราชวังสำหรับเชื้อพระวงศ์อยู่ระยะหนึ่ง ก่อนจะเปิดเป็นสถานที่ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมภายใต้การดูแลของเทศบาลเมือง ซึ่งภายในปราสาทสามารถแบ่งได้เป็น 3 ส่วน คือ Honmaru ที่เป็นแนวป้องกันหลัก Ninomaru ที่เป็นแนวป้องกันรอง และสวนแบบญี่ปุ่นที่ล้อมรอบทั้ง Honmaru และ Ninomaru ทั้งหมดนี้ถือเป็นตัวอย่างของปราสาทที่ดีที่สุดในยุคศักดินาของญี่ปุ่น

⇒ การเดินทางมาปราสาทนิโจ

  • นั่งรถไฟใต้ดินสาย Tozai Line มาลงที่สถานี Nijojo-mae แล้วเดินอีกประมาณ 1 นาที
  • นั่งรถบัสสาย 9, 50 หรือ 101 จากสถานี Kyoto มาลงที่ป้าย Nijojo-mae แล้วเดินอีกประมาณ 1 นาที

11. ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)

— จังหวัดโอซาก้า (Osaka)

( แผนที่)

ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)

ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) ตั้งอยู่ในเมืองโอซาก้า (Osaka) เป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น สร้างขึ้นโดยโชกุนโทโยโตมิ ฮิเดโยชิ ผู้รวมประเทศญี่ปุ่นเป็นหนึ่งเดียว ก่อนจะถูกเผาทำลายในช่วงสงครามกลางเมืองเมื่อปี ค.ศ. 1615 พร้อมกับการล่มสลายของตระกูลโทโยโตมิ ก่อนจะได้รับการบูรณะขึ้นใหม่โดยโชกุนโทคุงาวะ เออิยาสุ แต่ก็ถูกฟ้าผ่าเสียหาย จนเมื่อปี ค.ศ. 1931 ชาวบ้านได้ระดมเงินเพื่อบูรณะปราสาทโอซาก้าขึ้นใหม่จึงมีความสวยงามและยิ่งใหญ่มาจนถึงปัจจุบัน

ปราสาทโอซาก้ามีทั้งหมด 8 ชั้น สูง 55 เมตร ภายในจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้และยุทธโทปกรณ์ในสมัยก่อน รอบตัวปราสาทคือสวนปราสาทโอซาก้าที่มีพันธุ์ไม้และดอกไม้มากมาย ในฤดูใบไม้ผลิเป็นหนึ่งในสถานที่ยอดนิยมในการมาชมดอกซากุระท่ามกลางสถาปัตยกรรมสมัยโบราณของญี่ปุ่น

⇒ การเดินทางมาปราสาทโอซาก้า

  • นั่งรถไฟใต้ดินสาย Chuo Line หรือ Tanimachi Line มาลงที่สถานี Tanimachi 4-chrome แล้วเดินต่ออีก 15 นาที
  • นั่งรถไฟใต้ดินสาย Chuo Line หรือ Nagahoritsurumiryokuchi Line มาลงที่สถานี Morinomiya แล้วเดินต่ออีก 20 นาที
  • นั่งรถไฟ JR สาย Osaka Loop Line มาลงที่สถานี Osakajokoen หรือ Morinomiya แล้วเดินต่ออีก 20 นาที

12. ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)

— จังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo)

( แผนที่)

ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)

ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) ตั้งอยู่ที่เมืองฮิเมจิ (Himeji) ในจังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo) สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1580 โดยโทโยโตมิ ฮิเดโยชิ จนกระทั่งปี ค.ศ. 1681 อิเคดะ เทรุมาสะ บุตรเขยของโชกุนโทคุงาวะ อิเอยาสุ ได้บูรณะต่อเติมปราสาทและมีรูปลักษณ์นี้มาถึงปัจจุบัน โดยตัวปราสาทฮิเมจิมีสีขาวจึงมีอีกชื่อว่า “ปราสาทนกกระยางขาว” หรือ “ปราสาทนกกระสา” ส่วนจุดเด่นอีกอย่างคือมีคูน้ำ 3 ชั้น ล้อมกำแพงหินสูงที่สลับคั่นด้วยเชิงเทิน หรือที่ว่างสำหรับวางป้อมปืน ซึ่งตามกำแพงมีรูเล็ก ๆ สำหรับส่องยิงข้าศึกด้วย

ปราสาทฮิเมจิเป็นปราสาทอีกแห่งที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO และขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติประจำชาติของญี่ปุ่นเมื่อปี ค.ศ. 1993 ภายในปราสาทเปิดให้เยี่ยมชม ซึ่งรอบปราสาทมีสวนขนาดใหญ่ ส่วนตัวปราสาทมีอาคารหลายอาคารที่เชื่อมต่อกัน โดยมีพิพิธภัณฑ์เปิดให้เยี่ยมชมข้าวของเครื่องใช้ในสมัยก่อน และสามารถขึ้นไปบนหอคอยเพื่อชมทิวทัศน์รอบปราสาทด้วย

⇒ การเดินทางมาปราสาทปราสาทฮิเมจิ

  • เดินจากสถานี Himeji ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
  • นั่งรถบัสจากสถานี Himeji มาลงที่ป้าย Himeji-jo Otemon-mae ใช้เวลาประมาณ 5 นาที

13. ปราสาทมัตสึเอะ (Matsue Castle)

— จังหวัดชิมาเนะ (Shimane)

( แผนที่)

ปราสาทมัตสึเอะ (Matsue Castle)

ปราสาทมัตสึเอะ (Matsue Castle) ตั้งอยู่ในเมืองมัตสึเอะ (Matsue) ของจังหวัดชิมาเนะ (Shimane) สร้างขึ้นโดยโฮริโอะ โยชิฮารุ เมื่อปี ค.ศ. 1611 เป็นปราสาทที่มี 6 ชั้น และมีลักษณะของปราสาทคล้ายกับนกขนาดเล็ก หรือที่เรียกว่า “ชิโดริ” กำลังสยายปีก จึงได้รับการเรียกอีกชื่อว่า “ปราสาทชิโดริ” และยังมีชื่ออื่น ๆ อย่าง “ปราสาทดำ” และ “ปราสาทโพลเวอร์”

ปราสาทมัตสึเอะนับเป็น 1 ใน 12 ปราสาทที่เก่าแก่สุดของญี่ปุ่น และมีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 และเพราะสร้างหลังสงครามใหญ่ครั้งสุดท้ายในญี่ปุ่นจึงเป็นปราสาทที่ไม่ได้รับความเสียหายจากไฟไหม้หรือภัยจากสงครามอื่น ๆ และมีสภาพดั้งเดิมมาถึงปัจจุบัน 

⇒ การเดินทางมาปราสาทปราสาทมัตสึเอะ

  • เดินจากสถานี Matsue ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
  • นั่งแท็กซี่จากสถานี Matsue ใช้เวลาประมาณ 10 นาที

14. ปราสาทโอคายาม่า (Okayama Castle)

— จังหวัดโอคายาม่า (Okayama)

( แผนที่)

ปราสาทโอคายาม่า (Okayama Castle)

ปราสาทโอคายาม่า (Okayama Castle) ตั้งอยู่ที่จังหวัดโอคายาม่า (Okayama) เรียกกันอีกชื่อว่า “ปราสาทอีกา” เนื่องด้วยตัวปราสาทที่มีสีดำ ซึ่งตรงข้ามกับปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) ที่มีสีขาว ปราสาทโอคายาม่าสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1597 โดยเจ้าเมืองชื่อฮิเดอิอะ ยูกิตะ เดิมมีถึง 35 หลัง ประตูทางเข้า 21 บาน แต่ต่อมาเหลือเพียง 1 หลัง และประตูทางเข้า 1 บานคือประตู Ishiyama-mon เพราะขาดงบประมาณในการดูแลรักษา และหลังจากนั้นก็ได้รับความเสียหายจากสงครามก่อนจะมีการบูรณะขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1966

ปราสาทโอคายาม่ามีทั้งหมด 6 ชั้นรวมชั้นใต้ดิน โดยสามารถเยี่ยมชมได้ทุกชั้น ที่ชั้นใต้ดินมีการจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับสงคราม ที่ชั้น 1 มีการสอนทำเซรามิคแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ที่ชั้น 2 และ 3 มีการจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับขุนนางและมีชุดของขุนนางให้เช่าใส่ถ่ายรูป ที่ชั้น 4 มีการจัดแสดงคำอธิบายในการก่อสร้างปราสาทนี้ ส่วนที่ชั้น 5 และ 6 สามารถขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามรอบปราสาทได้ เช่น ตัวเมืองโอคายาม่า สวนโคระคุเอ็น (Korakuen) และแม่น้ำอาซาฮี (Asahi)

⇒ การเดินทางมาปราสาทโอคายาม่า

  • นั่งรถรางจากสถานี Okayama มาลงป้าย Shiroshita แล้วเดินต่อประมาณ 10 นาที

15. ปราสาทฮิโรชิม่า (Hiroshima Castle)

— จังหวัดฮิโรชิม่า (Hiroshima)

( แผนที่)

ปราสาทฮิโรชิม่า (Hiroshima Castle)

ปราสาทฮิโรชิม่า (Hiroshima Castle) อยู่ที่เมืองฮิโรชิม่า (Hiroshima) สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1589 แต่ถูกทำลายจากระเบิดปรมาณูในสงครามโลกครั้งที่ 2 ช่วงปี ค.ศ. 1945 ก่อนจะได้รับการบูรณะสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1945 และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นร่องรอยทางประวัติศาสตร์ของชาติ และเป็น 1 ใน 100 ปราสาทขึ้นชื่อของญี่ปุ่น

ตัวปราสาทฮิโรชิม่ามี 5 ชั้น กำแพงด้านนอกบุด้วยแผ่นไม้ รอบปราสาทล้อมด้วยคูน้ำ ด้านในปราสาทเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ของเมืองฮิโรชิม่า มีห้องแสดงข้าวของเครื่องใช้ ชุดเกราะของซามูไร และด้านบนสามารถขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ได้รอบด้าน

⇒ การเดินทางมาปราสาทฮิโรชิม่า

  • นั่งรถรางสาย 1, 2 หรือ 6 จากสถานี Hiroshima มาลงป้าย Kamiyacho-nishi หรือ Kamiyacho-higashi แล้วเดินต่อประมาณ 10 นาที

16. ปราสาทมารุกาเมะ (Marugame Castle)

— จังหวัดคางาวะ (Kagawa)

( แผนที่)

ปราสาทมารุกาเมะ (Marugame Castle)

ปราสาทมารุกาเมะ (Marugame Castle) ตั้งอยู่ที่เมืองมารุกาเมะ (Marugame) ในจังหวัดคากาวะ (Kagawa) สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1597 โดยผู้ปกครองเมือง อิโคมะ จิคามาสะ ต่อมาในสมัยเอโดะช่วงต้น ปราสาทถูกทิ้งร้างก่อนที่อิเอฮารุ ยามาซากิ ได้บูรณะปราสาทอีกครั้ง ปราสาทมารุกาเมะมีลักษณะเด่นคือกำแพงหินที่เรียงต่อกัน 4 ชั้น ความสูงประมาณ 60 เมตร ถือเป็นกำแพงที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น

ปราสาทมารุกาเมะยังได้รับเลือกเป็น 1 ใน 100 ปราสาทที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น และได้ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติชาติ รอบปราสาทมีสวนและจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นภูเขาอิอิโนะ
(Mount Iino) และทะเลเซโตะใน (Seto Inland Sea) รวมถึงวิวทิวทัศน์เมืองมารุกาเมะที่สวยงาม ทั้งนี้ในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนเมษายนของทุกปีจะมีการจัดเทศกาลชมดอกซากุระ ซึ่งมีดอกซากุระบานสะพรั่ง และมีการประดับประดาโคมไฟกระดาษกว่า 300 ดวง

⇒ การเดินทางมาปราสาทมารุกาเมะ

  • เดินจากสถานี Marugame ใช้เวลาประมาณ 15นาที

17. ปราสาทมัตสึยาม่า (Matsuyama Castle)

— จังหวัดเอฮิเมะ (Ehime)

( แผนที่)

ปราสาทมัตสึยาม่า (Matsuyama Castle)

ปราสาทมัตสึยาม่า (Matsuyama) ในเมืองมัตสึยาม่า (Matsuyama) ของจังหวัดเอฮิเมะ (Ehime) ตั้งอยู่บนภูเขาคัตสึยาม่า (Mount Katsuyama) ที่สูงประมาณ 132 เมตรจากระดับน้ำทะเล หากอยากเยี่ยมชมปราสาท สามารถเดินขึ้นบันไดไปเอง หรือจะนั่งกระเช้าขึ้นไปก็ได้ เมื่อถึงปราสาทจะสามารถชมวิวรอบเมืองมัตสึยาม่าได้อย่างรอบด้าน

ปราสาทมัตสึยาม่าสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1603 เป็นปราสาทที่มีกำแพงหินขนาดใหญ่ สูง 5 ชั้น ได้รับการยอมรับเป็น 1 ใน 100 ปราสาทขึ้นชื่อ และเป็น 1 ใน 12 ปราสาทเก่าแก่ของญี่ปุ่น ซึ่งบริเวณรอบปราสาทมีสวนที่สวยงาม จึงเป็นสถานที่ที่นิยมมาชมดอกซากุระบานในช่วงต้นเดือนเมษายน

⇒ การเดินทางมาปราสาทมัตสึยาม่า

  • นั่งรถรางจากสถานี Matsuyama มาลงที่ป้าย Okaido แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที

18. ปราสาทโคจิ (Kochi Castle)

— จังหวัดโคจิ (Kochi)

( แผนที่)

ปราสาทโคจิ (Kochi Castle)

ปราสาทโคจิ (Kochi Castle) ตั้งอยู่ที่จังหวัดโคจิ (Kochi) ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1601 โดยมีอาคารถึง 14 หลัง และมีหอคอยของปราสาท แต่ตัวอาคารหลักได้รับการสร้างในปี ค.ศ. 1748 หลังประสบเหตุไฟไหม้ ปราสาทโคจิเป็น 1 ใน 12 ปราสาทเก่าแก่ที่รอดจากสงครามและภัยพิบัติ มีความแตกต่างจากปราสาทอื่นคือพื้นที่ปราสาทเป็นแนวยาวมากกว่าจะสูงหลายชั้นแบบปราสาทอื่น ๆ และยังเป็นที่พำนักของไดเมียวตระกูลยามาอูจิ จากที่ปกติไดเมียวจะอาศัยอยู่ในพระราชวังที่แยกออกมาจากตัวปราสาท

ปราสาทโคจิเปิดให้คนทั่วไปเข้าเยี่ยมชมตั้งแต่ปี ค.ศ. 1874 ทำให้สวนบริเวณปราสาทเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมือง มีการจัดเทศกาลชมซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งตอนกลางคืนมีการจัดโคมไฟประดับประดาทำให้สวนมีความสว่างไสวสวยงาม นอกจากนี้ฤดูอื่น ๆ ยังมีงานแสดงตามเทศกาลอีกด้วย

⇒ การเดินทางมาปราสาทโคจิ

  • เดินจากสถานี Kochi ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
  • นั่งรถรางจากสถานี Kochi มาเปลี่ยนสายที่ป้าย Harimayabashi เพื่อมาลงที่ป้าย Kochijo-mae

19. ปราสาทโคคุระ (Kokura Castle)

— จังหวัดฟุกุโอกะ (Fukuoka)

( แผนที่)

ปราสาทโคคุระ (Kokura Castle)

ปราสาทโคคุระ (Kokura Castle) ตั้งอยู่ในเมืองคิตะคิวชู (Kitakyushu) ของจังหวัดฟูกุโอกะ (Fukuoka) เป็นปราสาทที่สร้างตามสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นแท้ ๆ มีความสูง 5 ชั้น สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1602 และกลายเป็นต้นแบบการสร้างปราสาทตามหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศญี่ปุ่น ปราสาทโคคุระสร้างโดยนายพลโฮโซกาวะ ทาดะโอกิ เพื่อใช้เป็นที่พักอาศัยและป้อมปราการ

ปราสาทโคคุระได้รับความเสียหายจากไฟไหม้เมื่อปี ค.ศ. 1866 และสร้างใหม่เมื่อปี ค.ศ. 1959 ก่อนจะได้รับการบูรณะอีกครั้งเมื่อปี ค.ศ. 1990 ปัจจุบันเปิดให้คนทั่วไปได้เข้าชมด้านในปราสาท ซึ่งมีการจัดแสดงข้อมูลทางประวัติศาสตร์ มีโมเดลจำลองเมืองเก่า และข้าวของเครื่องใช้สมัยโบราณ รวมถึงสามารถขึ้นไปด้านบนเพื่อชมทิวทัศน์โดยรอบได้ด้วย

⇒ การเดินทางมาปราสาทโคคุระ

  • เดินจากสถานี Kokura ใช้เวลาประมาณ 15 นาที

20. ปราสาทคุมาโมโต้ (Kumamoto Castle)

— จังหวัดคุมาโมโต้ (Kumamoto)

( แผนที่)

ปราสาทคุมาโมโต้ (Kumamoto Castle)

ปราสาทคุมาโมโต้ (Kumamoto Castle) ที่จังหวัดคุมาโมโต้ (Kumamoto) สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1607 ก่อนเสียหายเพราะไฟไหม้เมื่อปี ค.ศ.1877 และสร้างใหม่ในปี ค.ศ.1960 ปราสาทคุมาโมโต้มีอีกชื่อว่า “ปราสาทแห่งต้นแปะก๊วย” เพราะระหว่างการก่อสร้างมีการปลูกต้นแปะก๊วยเผื่อว่าเกิดสงคราม คนในปราสาทจะได้มีอาหารรับประทาน

ตัวปราสาทโดดเด่นด้วยการก่อสร้างที่เป็นแนวกว้าง ประกอบด้วยปราสาทสองหลัง โดยปราสาทหลักมี 6 ชั้น ส่วนปราสาทอีกหลังมี 4 ชั้น ด้านบนของปราสาททั้งสองเป็นหอสังเกตการณ์จึงสามารถชมวิวทิวทัศน์ของเมืองคุมาโมโต้ได้รอบทิศ ส่วนโดยรอบปราสาทมีการปลูกต้นซากุระกว่า 800 ต้น ทำให้เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิ รอบปราสาทคุมาโมโต้จึงเป็นสถานที่ชมซากุระยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งนั่นเอง

⇒ การเดินทางมาปราสาทคุมาโมโต้

  • นั่งรถรางจากสถานี Kumamoto มาลงที่ป้าย Kumamotojo-mae แล้วเดินต่อประมาณ 7 นาที

หมายเหตุ

  • ปราสาทคุมาโมโต้ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อปี ค.ศ. 2016 ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 20 ปีในการซ่อมแซม ทั้งนี้จะมีการเปิดให้เข้าชมภายในตัวปราสาทหลักได้ในฤดูใบไม้ผลิปี ค.ศ. 2021

ส่งท้าย

เป็นอย่างไรบ้างคะกับ 20 ปราสาทญี่ปุ่นที่ต้องมา Check-in! การท่องเที่ยวตามปราสาท นอกจากจะได้เห็นความสวยงามของสถาปัตยกรรมสมัยโบราณแล้ว ยังได้เรียนรู้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนสมัยก่อนจากการจัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้ภายในปราสาท รวมถึงกลไกและรูปแบบการสร้างปราสาทเพื่อป้องกันการรุกรานจากข้าศึกในยุคสงคราม เรียกได้ว่าเปิดประสบการณ์ใหม่ไม่น้อยเลยทีเดียว

บทความที่เกี่ยวข้อง