เมืองฮิโรชิม่า (Hiroshima) ตั้งอยู่ในภูมิภาคชูโกกุ (Chugoku) และเป็นเมืองหลักของภูมิภาคนี้ สามารถเดินทางมาได้สะดวกจากเมืองใหญ่อย่างโอซาก้า (Osaka) ในภูมิภาคคันไซ (Kansai) ด้วยรถไฟชินคันเซนประมาณ 60 – 80 นาทีค่ะ
ฮิโรชิม่าถือเป็นอีกเมืองหนึ่งที่ควรค่าแก่การมาท่องเที่ยวอย่างยิ่งสำหรับนักเดินทางที่ชื่นชอบประเทศญี่ปุ่น เพราะที่นี่เป็นเมืองที่มีความสำคัญมาตั้งแต่อดีต โดยมีแลนมาร์คที่สำคัญคือ ศาลเจ้ากลางน้ำ และยังเป็นเมืองรู้จักกันดีในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งมีอนุสรณ์และพิพิธภัณฑ์ให้เยี่ยมชม
7 สถานที่ท่องเที่ยวในฮิโรชิม่าที่ห้ามพลาด!
ปราสาทฮิโรชิม่า (Hiroshima Castle)
( แผนที่)
สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองฮิโรชิม่าที่อยากจะแนะนำเป็นที่แรกก็คือ “ปราสาทฮิโรชิม่า (Hiroshima Castle)“ เป็นปราสาทเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ล้อมรอบด้วยคูน้ำ ตัวปราสาทสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1589 โดยท่าน Mori Terumoto ซึ่งมีฐานะเป็นท่านเจ้าเมืองในสมัยนั้น
แต่น่าเสียดายหลังจากช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1945 ปราสาทฮิโรชิม่าแห่งนี้ถูกทำลายลงเนื่องจากการทิ้งระเบิดปรมาณู ทำให้ตัวปราสาทได้รับความเสียหายอย่างหนัก ต่อมาในปี ค.ศ. 1958 ได้มีการบูรณะซ่อมแซมตัวปราสาทขึ้นมาใหม่อย่างสวยสดงดงาม ปัจจุบันได้เปิดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ความเป็นมาของปราสาทและเมืองฮิโรชิม่าแห่งนี้กันค่ะ
ตัวปราสาทนั้นมีอยู่ทั้งหมด 5 ชั้นด้วยกัน ซึ่งชั้นบนสุดของปราสาทแห่งนี้เป็นอีกมุมหนึ่งที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์อันสวยงามของเมืองได้อีกด้วย สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาที่ปราสาทแห่งนี้ สามารถนั่งรถรางสาย 1, 2 หรือ 6 จากสถานีรถไฟ Hiroshima เพื่อมาลงยังป้าย Kamiyacho-nishi หรือ Kamiyacho-higashi และเดินต่ออีกประมาณ 10 นาทีค่ะ
สวนสันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Memorial Park)
( แผนที่)
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นของเมืองฮิโรชิม่าที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งก็คือ “สวนสันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Memorial Park)“ เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ซึ่งมีพื้นที่โดยรวมประมาณ 120,000 ตารางกิโลเมตร สวนแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานให้กับเหตุการณ์การทิ้งระเบิดปรมาณูเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และเพื่อรำลึกถึงผู้ที่เสียชีวิตนับหมื่นในเหตุการณ์ครั้งนั้น และผู้คนอีกเป็นจำนวนมากที่ได้รับความทุกข์ทรมานจากสารกัมมันตภาพรังสี
ภายในสวนแห่งนี้เป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญ ๆ เช่น “โดมปรมาณู (Atomic Bomb Dome)” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของสวนสันติภาพแห่งนี้ นอกจากนี้ก็ยังมี “อนุสาวรีย์สันติภาพของเด็ก (Children’s Peace Monument)” และ “พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Memorial Museum)” เป็นต้น สำหรับบรรยากาศรอบ ๆ สวนยังเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ที่ให้ความร่มรื่น และสนามหญ้าอันกว้างขวางที่เหมาะแก่การนั่งพักผ่อน
หากมีโอกาสได้มาเที่ยวที่เมืองฮิโรชิม่า ก็อย่าลืมแวะเวียนมาที่สวนแห่งนี้นะคะ โดยการเดินทางเริ่มจากสถานีรถไฟ Hiroshima ให้นั่งรถรางสาย 2 หรือ สาย 6 เพื่อไปลงที่ป้าย Genbaku-Domu mae ซึ่งใช้เวลาประมาณ 15 นาทีค่ะ
โดมปรมาณู (Atomic Bomb Dome)
( แผนที่)
สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์โลกที่บอกถึงความรุนแรงของสงครามและย้ำเตือนให้นึกถึงสันติภาพของโลก อย่าง “โดมปรมาณู (Atomic Bomb Dome)“ หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกกันว่า “เก็นบาคุโดม (Genbaku Dome)” โดมแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ส่วนหนึ่งของ “สวนสันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Memorial Park)” ซึ่งจะอยู่หน้าสถานีรถราง Genbaku-Domu mae เลยค่ะ
โดมปรมาณูเป็นอาคารโดมรูปกลมรีขนาดใหญ่ที่สร้างด้วยทองแดงในแบบสไตล์ยุโรป ซึ่งปัจจุบันยังหลงเหลือให้เห็นจากการทำลายล้างของระเบิดปรมาณูในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งตกห่างจากโดมไปเพียง 160 เมตร
โดมแห่งนี้สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1914 เดิมเคยเป็นศูนย์จัดแสดงผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมประจำจังหวัดฮิโรชิม่า ถือได้ว่าศูนย์กลางการค้าและสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมือง ปัจจุบันเหลือเพียงแค่โดมตรงกลาง โครงสร้างภายนอก รวมไปถึงกำแพงด้านนอกเท่านั้นค่ะ ซึ่งในปี ค.ศ. 1996 ที่นี่ก็ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO
อนุสาวรีย์สันติภาพของเด็ก (Children’s Peace Monument)
( แผนที่)
โศกนาฏกรรมอันโหดร้ายที่โลกมิอาจลืม…ผลมาจากระเบิดปรมาณูที่ถูกทิ้งในเมืองฮิโรชิม่า จึงมีการสร้างสิ่งเตือนใจให้ทุกคนตระหนักถึงภัยสงครามและผลที่ตามมาอย่าง “อนุสาวรีย์สันติภาพของเด็ก (Children’s Peace Monument)“ ที่ตั้งอยู่ใน “สวนสันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Memorial Park)“ ใกล้กับสะพานที่เราเดินข้ามมาจากฝั่งของ “โดมปรมาณู (Atomic Bomb Dome)” ค่ะ
อนุสาวรีย์สันติภาพของเด็กนั้นมีลักษณะเป็นรูปปั้นของเด็กหญิงยืนชูนกกระเรียนสีทองไว้เหนือหัว คนญี่ปุ่นเชื่อกันว่านกกระเรียนเป็นสัตว์มงคล ช่วยให้มีชีวิตที่ยืนยาว และยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์สำคัญที่แสดงถึงสันติภาพ และการต่อต้านระเบิดปรมาณูด้วยค่ะ ซึ่งอนุสาวรีย์แห่งนี้ได้สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึง Sadako Sasaki เด็กหญิงผู้โชคร้ายที่ได้รับรังสีจากเหตุการณ์ระเบิดปรมาณูสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อปีค.ศ. 1945 ซึ่งในตอนนั้นเธออายุเพียง 2 ขวบ และมีอาการป่วยเป็นโรคลูคิเมีย จากนั้นเธอได้เริ่มพับนกกระเรียนให้ครบ 1,000 ตัว พร้อมกับอธิษฐานให้ตัวเองหายป่วย แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ เธอได้เสียชีวิตลงในปี ค.ศ. 1955 และได้มีการสร้างอนุสาวรีย์ในปี ค.ศ. 1958
พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Memorial Museum)
( แผนที่)
สำหรับคนที่ชอบการศึกษาประวัติศาสตร์ ก็สามารถแวะมาเยี่ยมชม “พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Memorial Museum)” ที่ตั้งอยู่ภายใน “สวนสันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Memorial Park)“ ได้ค่ะ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อถ่ายทอดความเป็นจริงเกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการทิ้งระเบิดปรมาณูลูกแรกในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1945 ณ เวลา 8:15 น.
ภายในพิพิธภัณฑ์ได้มีการรวบรวมและจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ในอดีต และภาพถ่ายของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายรวมถึงวัตถุอื่น ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดจากการทำลายล้างของระเบิดปรมาณู ซึ่งเหลือไว้เพียงร่องรอยความสูญเสียของอาคารสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ นอกจากนี้ก็ยังมีการจัดแสดงประวัติศาสตร์ความเป็นมาเกี่ยวกับเมืองฮิโรชิม่าทั้งก่อนและหลังการระเบิด นับเป็นความสูญเสียที่ประเมินค่ามิได้ การได้มาเยี่ยมชมที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะทำให้เราได้รับรู้และเข้าใจประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นมากกว่าเดิมนั่นเองค่ะ
สวนชุคเคเอ็น (Shukkeien Garden)
( แผนที่)
แหล่งท่องเที่ยวแนวธรรมชาติที่ได้รับความนิยมไม่น้อยทีเดียวทั้งจากชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ ที่แวะเวียนกันมาอย่างไม่ขาดสายตลอดทั้งปีอย่าง “สวนชุคเคเอ็น (Shukkeien Garden)“ ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1620 โดยท่านเจ้าเมือง Nagaakira Asano ในอดีตสวนแห่งนี้ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุระเบิดปรมาณู จากนั้นไม่นานจึงได้รับการบูรณะและซ่อมแซมใหม่ให้มีความสวยงามมากขึ้นอย่างที่เห็นในปัจจุบันนั่นเองค่ะ
สวนชุคเคเอ็นถือได้ว่าเป็นสวนในแบบฉบับญี่ปุ่นแท้ ๆ ที่ได้รับการออกแบบและตกแต่งให้มีความโดดเด่น สวยงาม โดยตั้งอยู่ใจกลางเมืองฮิโรชิม่า ท่ามกลางธรรมชาติอันร่มรื่นที่เต็มไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ เหมาะแก่การเดินเที่ยวเล่นเพื่อผ่อนคลายไปรอบ ๆ สวน โดยภายในสวนแห่งนี้ยังประกอบไปด้วย บ่อน้ำขนาดใหญ่ที่สร้างตามแบบทะเลสาบซีหู (Xihu Lake) ของประเทศจีน ซึ่งเต็มไปด้วยฝูงปลาคราฟที่ออกมาแหวกว่ายอยู่เต็มไปทั่วทั้งบ่อ ถัดมาจะเป็นสะพานหินอ่อนสีขาวที่ตั้งอยู่ใจกลางบ่อน้ำ จากนั้นจะเป็นเรือนชงชาสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมสำหรับการนั่งพักเพื่อชื่นชมความงามของสวนแห่งนี้ และสะพานโค้งที่มองเห็นมาแต่ไกล เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสายธรรมชาติอย่างเรา ๆ
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาที่สวนชุคเคเอ็นแห่งนี้โดยใช้บริการรถราง สาย 1,2 หรือ 6 จากหน้าสถานี Hiroshima จากนั้นเปลี่ยนเป็นสาย 9 ที่สถานี Hatchobori เพื่อมาลงที่สถานี Shukkeien-mae หรือเดินจากสถานีรถไฟ Hiroshima ประมาณ 15 นาทีเท่านั้นค่ะ
ศาลเจ้าอิสึคุชิมะ (Itsukushima Shrine)
( แผนที่)
อีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตติดอันดับประจำจังหวัดฮิโรชิม่าที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ของนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาตินั่นก็คือ “ศาลเจ้าอิสึคุชิมะ (Itsukushima Shrine)“ เป็นศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างขึ้นโดยท่าน Taira No Kiyomori ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะมิยาจิม่า (Miyajima) โดยอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองฮิโรชิม่านัก
อย่างที่ทราบกันดีว่าศาลเจ้าอิสึคุชิมะแห่งนี้มีจุดเด่น คือ ประตูเสาโทริอิสีแดงขนาดใหญ่ที่ตั้งโดดเด่นอยู่กลางทะเล ในอดีตคนญี่ปุ่นเชื่อกันว่าเป็นประตูเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์และโลกวิญญาณ ตัวเสาหลักสร้างขึ้นโดยใช้ต้นการบูรขนาดใหญ่อายุกว่า 500 ปีและมีความสูงอยู่ที่ 16.6 เมตร แม้ว่าศาลเจ้าแห่งนี้จะเคยได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุเพลิงไหม้และพายุไปบางส่วน แต่ก็ได้รับการบูรณะปรับปรุงขึ้นมาใหม่จนสวยงามและยังคงแบบเดิมเอาไว้ ภายในศาลเจ้ายังประกอบไปด้วย อาคารหลัก หอสวดมนต์ ระเบียงทางเดิน และโรงละครเล็ก ๆ
สำหรับในช่วงที่น้ำลงนั้น นักท่องเที่ยวสามารถเดินลงไปด้านล่างเพื่อชื่นชมความสวยงามของเสาโทริอินี้ได้แบบใกล้ชิดกันเลยทีเดียว ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองฮิโรชิม่าเลยก็ว่าได้ค่ะ ที่สำคัญยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์การ UNESCO ในปี ค.ศ. 1996 อีกด้วยค่ะ สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากจะเดินทางมาเที่ยวชมศาลเจ้าอิสึคุชิมะแห่งนี้ สามารถเดินทางด้วยรถไฟ JR จากสถานี Hiroshima มาลงที่สถานี Miyajimaguchi แล้วมาต่อเรือเฟอร์รี่ JR Miyajima Ferry ที่ท่าเรือเพื่อข้ามมายังเกาะมิยาจิม่าซึ่งใช้เวลาประมาณ 10 นาทีค่ะ
หมายเหตุ
- เสาโทริอิกลางน้ำจะมีการซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ค.ศ. 2019 ถึงประมาณเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2020 โดยจะมีการติดตั้งนั่งร้านและคลุมผ้าใบที่เสา
ส่งท้าย
สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองฮิโรชิม่าที่มีชื่อเสียงโด่งดังในบรรดานักท่องเที่ยว แม้จะมีจำนวนไม่มากเหมือนเมืองใหญ่อื่นๆ ของญี่ปุ่น แต่ก็เป็นสถานที่ทรงคุณค่า น่ามาเยือนเป็นอย่างยิ่งค่ะ สำหรับนักท่องเที่ยวสายกิน เมืองฮิโรชิม่าแห่งนี้ก็ยังมีอาหารขึ้นชื่ออย่าง โอโคโนมิยากิ ขนมโมมิจิมันจู ให้ได้ลิ้มลองกันค่ะ
แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในญี่ปุ่น
- สถานที่ท่องเที่ยวในโตเกียว (Tokyo) ที่ต้องมา Check-in!
- สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองซัปโปโร (Sapporo) ที่ต้องมา Check-in!
- สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองโอซาก้า (Osaka) ที่ต้องมา Check-in!
- สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองเกียวโต (Kyoto) ที่ต้องมา Check-in!
- สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองนาโกย่า (Nagoya) ที่ต้องมา Check-in!
- สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองฟุกุโอกะ (Fukuoka) ที่ต้องมา Check-in!