ฮาโกดาเตะ (Hakodate) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดของเกาะฮอกไกโด (Hokkaido) เมืองนี้เป็นหนึ่งในเมืองท่าที่สำคัญของญี่ปุ่นและได้รับอิทธิพลจากต่างชาติ สิ่งก่อสร้างซึ่งรวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองส่วนใหญ่ก็มีสไตล์ออกไปทางตะวันตก และมีทิวทัศน์ของอ่าวที่สวยงาม เรียกได้ว่าเป็นอีกเมืองในญี่ปุ่นที่มีความโรแมนติกค่ะ
7 สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองฮาโกดาเตะที่ห้ามพลาด!
ป้อมดาวโกเรียวกากุ (Fort Goryokaku)
( แผนที่)
สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและมีประวัติความเป็นมาอันยาวนานของเมืองฮาโกดาเตะอย่าง “ป้อมดาวโกเรียวกากุ (Fort Goryokaku)“ หรือที่คนไทยนิยมเรียกกันว่า “ป้อมดาว 5 แฉก“ ที่เรียกแบบนี้ก็เพราะสวนแห่งนี้ออกแบบให้เป็นรูปดาว ป้อมนี้ถูกสร้างขึ้นตามแบบตะวันตก ในสมัยของโชกุนโทกุกาวะ สำหรับใช้เป็นที่มั่นทางด้านการทหารทางเหนือของญี่ปุ่นนั่นเอง
ปัจจุบันป้อมโกเรียวกากุได้เปิดเป็นสวนสาธารณะให้นักท่องเที่ยวเข้าชมฟรีค่ะ ซึ่งภายในสวนจะเต็มไปด้วยต้นซากุระที่ปลูกไว้มากกว่า 1600 ต้น และด้านข้างของป้อมจะมี “หอคอยโกเรียวกากุ (Goryokaku Tower)” ตั้งตระหง่านท่ามกลางอาคารและตึกรอบ ๆ อย่างเด่นชัด หอคอยนั้นสร้างขึ้นในปี 1964 มีความสูงจากพื้นดิน 107 เมตร ซึ่งเปิดให้เข้าชมในปี 2006 เป็นต้นมา
นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมความงามของสวนดาวห้าแฉกและวิวรอบ ๆ ของเมืองฮาโกดาเตะแห่งนี้ได้แบบ 360 องศากันเลยทีเดียว แต่จะมีค่าเข้าชมด้วยนะคะ ว่ากันว่าหอคอยแห่งนี้เป็นจุดชมวิวที่สวยสุดของเมืองในช่วงเดือนพฤษภาคมสำหรับการชมดอกซากุระอีกด้วยนะคะ
สำหรับท่านใดที่สนใจอยากจะมาเที่ยวชมป้อมแห่งสามารถเดินทางมาด้วยรถรางจากสถานี Hakodate ลงที่ป้าย Goyrokaku Koen Mae แล้วเดินต่ออีกเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้นค่ะ โดยที่นี่จะเปิดให้เข้าชมทุกวันแต่จะมี 2 เวลาในช่วงปลายเดือนเมษายน – ปลายเดือนตุลาคม 08.00-19.00 น. และปลายเดือนตุลาคม – ปลายเดือนเมษายน 09.00-18.00 น.
ภูเขาฮาโกดาเตะ (Mount Hakodate)
( แผนที่)
จุดชมวิวหลักล้านอันงดงามของเมืองฮาโกดาเตะที่โอบล้อมด้วยทะเลและภูเขา ซึ่งตั้งอยู่บน “ภูเขาฮาโกดาเตะ (Mount Hakodate)” ภูเขาแห่งนี้อยู่สูงจากระดับพื้นดินที่ 334 เมตร อากาศบนยอดเขาก็จะหนาว ๆ หน่อย สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่งดงามโดยไม่เสียค่าเข้าชมค่ะ นับเป็นจุดชมวิวติดอันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่นเลยทีเดียว
หากมีโอกาสอยากแนะนำให้ขึ้นมาชมพระอาทิตย์ตกดินและวิวยามค่ำคืนที่สุดแสนโรแมนติกค่ะ แต่คนก็จะเยอะหน่อย นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปบนยอดจุดชมวิวได้โดย “กระเช้าลอยฟ้าฮาโกดาเตะ (Hakodate Ropeway)” เพียงแค่ 3 นาที หรืออยากจะนั่งรถบัสเพื่อขึ้นเขา เค้าก็มีให้บริการค่ะ
บนยอดเขาประกอบไปด้วยจุดชมวิว ร้านกาแฟ ร้านจำหน่ายของที่ระลึก และร้านอาหารเปิดให้บริการ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเพื่อมาขึ้นกระเช้าลอยฟ้าได้โดยรถรางหน้าสถานี Hakodate ใช้เวลา 10 นาที หรือใครสะดวกนั่งรถรางจากสถานี Hakodate ไปลงที่ป้าย Jujigai แล้วเดินต่อไปอีก 10 นาทีก็ได้นะคะ
ย่านเมืองเก่าโมโตมาชิ (Motomachi)
( แผนที่)
อีกหนึ่งสถานที่สำคัญและขึ้นชื่อของเมืองแห่งนี้ ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะนิยมมาท่องเที่ยวได้ตลอดฤดูกาลก็ว่าได้นั่นคือ “ย่านเมืองเก่าโมโตมาชิ (Motomachi)” ถือเป็นแหล่งรวมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ๆ หลายจุดของเมืองนี้เลยค่ะ ซึ่งเป็นบริเวณที่อยู่แนวเชิงเขาฮาโกดาเตะ นับตั้งแต่ป้ายรถราง Jujigai ไปจนถึง Suehirocho
ในอดีตย่านโมโตมาชิเคยเป็นที่อยู่อาศัยของบรรดาพ่อค้าต่างชาติที่เข้ามาทำการค้าขายกับประเทศญี่ปุ่นมากว่า 150 ปีที่แล้ว ทำให้โบสถ์ วัด สถานกงสุลเก่า รวมทั้งอาคารบ้านเรือนที่ก่อสร้างในแบบสถาปัตยกรรมในสไตล์ยุโรปแทบทั้งสิ้น ซึ่งทุกอย่างเค้ายังคงอนุรักษ์ไว้ให้มีสภาพเหมือนเดิม ซึ่งถือได้ว่าเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมากในสมัยนั้นค่ะ และที่พลาดไม่ได้เลยเมื่อมาถึงย่านนี้คือการเดินทางไปถ่ายภาพวิวสวย ๆ ที่ “เนินฮาจิมันซากะ (Hachiman-Zaka Slope)” สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถเดินทางมาได้โดยการนั่งรถรางจากสถานี Hakodate ลงรถที่ป้าย Suehirocho ค่ะ
เนินฮาจิมันซากะ (Hachiman-Zaka Slope)
( แผนที่)
จุดชมวิวที่มีภูเขา ทะเล และท่าเรือที่สวยงามตัดกับท้องฟ้า ต้องไม่พลาดที่จะตรงมาที่นี่เพื่อมาถ่ายภาพสวย ๆ ชิค ๆ กันเลย ณ “เนินฮาจิมันซากะ (Hachiman–Zaka Slope)” ซึ่งอยู่ในย่านโมโตมาชิ (Motomachi) ถือได้ว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของเมืองนี้ก็ว่าได้ กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของใครหลายคนเมื่อได้มาเยือนเมืองแห่งนี้ เพราะสามารถมองเห็นวิวที่สวยงามของท่าเรือฮาโกดาเตะแบบพาโนรามากันเลยทีเดียว
ที่สำคัญที่แห่งนี้ยังถูกใช้ในการถ่ายภาพยนตร์ ถ่ายโฆษณา และรายการทีวีอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งคนญี่ปุ่นก็จะเห็นกันจนชินตา และสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่นี่ในช่วงฤดูหนาวเค้าก็จะมีเทศกาล Hakodate Light Up ให้ได้ชมกันซึ่งเป็นเทศกาลที่มีชื่อเสียงของที่นี่อีกด้วยนะคะ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเพื่อมาชื่นชมความงามของเนินแห่งนี้ได้โดยการนั่งรถรางจากสถานี Hakodate ลงรถที่ป้าย Suehirocho จากนั้นให้เดินอีกประมาณ 5 นาทีค่ะ
โกดังอิฐแดงคาเนะโมริ (Kanemori Red Brick Warehouse)
( แผนที่)
สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ๆ หลายจุดของเมืองนี้ถือได้ว่ามีประวัติความเป็นมาอันยาวนานของประเทศญี่ปุ่นแทบจะทุกที่ ๆ เราไปมาเลยค่ะ และที่แห่งนี้ก็เช่นเดียวกัน “โกดังอิฐแดงคาเนะโมริ (Kanemori Red Brick Warehouse)” ถูกสร้างขึ้นในปี 1859 และมีการสร้างโกดังใหม่ในปี 1909 ตามแบบตะวันตกด้วยอิฐแดงเพื่อใช้ด้านการค้าในสมัยของเอโดะ
โกดังแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของท่าเรือฮาโกดาเตะ ปัจจุบันมีการปรับปรุงและพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของเมืองนี้ซึ่งเต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านกาแฟ ลานเบียร์ ร้านเสื้อผ้า ร้านขายของที่ระลึกต่าง ๆ มีบรรยากาศริมน้ำเหมาะแก่การเดินช็อปปิ้งหรือนั่งชิลกันเลยทีเดียว และยังเป็นสถานที่สำหรับใช้จัดคอนเสิร์ต จัดงานแต่งงาน รวมถึงงานเทศกาล Hakodate Christmas Fantasy อีกด้วย ที่นี่เปิดทำการทุกวันค่ะ ตั้งแต่เวลา 09.30 – 19.00 น. นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาที่นี่ได้โดยใช้บริการรถรางจากป้าย Hakodate โดยลงที่ป้าย Jujigai จากนั้นเดินไปอีกประมาณ 5 นาทีค่ะ
ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ (Hakodate Morning Market)
( แผนที่)
สำหรับท่านที่รักการตื่นเช้าเป็นชีวิตจิตใจ แล้วยังไม่มีแพลนจะไปไหนต่อเราขอแนะนำ “ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ (Hakodate Morning Market)” เป็นตลาดที่เปิดค้าขายตั้งแต่เช้าสมชื่อจริงๆค่ะคือในช่วงตี 5 เป็นต้นไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารทะเลสด ๆ ผักผลไม้ที่มีมาให้ได้เลือกซื้อกันอย่างสนุกสนาน แถมราคาถูกสุด ๆ ไปเลยค่ะ ซึ่งที่นี่เป็นตลาดที่ดูสะอาดเรียบร้อย เป็นระเบียบตามสไตล์คนญี่ปุ่นมากค่ะ น่าเดินเที่ยวมากสำหรับท่านที่ชื่นชอบการจ่ายตลาดสด
หากตื่นเช้าเพื่อมาเดินชมวิถีชีวิตของคนที่นี่แล้วก็ต้องไม่พลาดที่จะตามหาเมนูยอดนิยมของตลาดแห่งนี้กันเลยละค่ะ เพราะที่นี่ไม่ใช่มีดีแค่อาหารทะเลจำหน่ายเท่านั้นนะคะ แต่ยังมีร้านอาหารทะเลหลากหลายร้านไว้คอยบริการนักเที่ยวเช่นเดียวกัน ซึ่งก็จะทำสด ๆ ทั้งเมนูดิบและสุกพร้อมเสิร์ฟให้ทานกันเลยค่ะ แต่ละร้านราคาก็จะไม่ต่างกันมาก
หลังจากที่อิ่มหนำสำราญกันแล้วที่ตลาดเช้าก็ยังมีอีกหนึ่งกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ทำกันนั่นก็คือ การตกปลาหมึกนั่นเองค่ะ จากนั้นเค้าก็จะนำหมึกที่เราตกได้มาทำให้ทานเลยค่ะ ถือได้ว่าเป็นตลาดที่ครบวงจรในเรื่องของอาหารทะเลจริง ๆ ทั้งหมึก กุ้ง หอย ปู ปลา แซลมอล และอื่น ๆอี กมากมายค่ะ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาโดยใช้บริการรถไฟลงที่สถานี JR Hakodate จากนั้นเดินมาเพียงแค่ 3 นาทีเท่านั้นค่ะ
สวนพฤกษศาสตร์ฮาโกดาเตะ (Hakodate Botanical Garden)
( แผนที่)
สำหรับท่านที่ชื่นชอบธรรมชาติ ต้นไม้ ใบหญ้า เราขอแนะนำที่นี่เลยค่ะ “สวนพฤกษศาสตร์ฮาโกดาเตะ (Hakodate Botanical Garden)”ภายในสร้างเป็นเรือนกระจกขนาดใหญ่เพื่อการจัดแสดงพันธุ์พืชเขตร้อนหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งต้นไม้ที่นี่ก็ได้รับการดูแลอย่างดีเพื่อให้ประชาชนได้เข้าชมเพื่อศึกษาเรียนรู้กันค่ะ และข้างนอกจะมีบรรดาลิงหิมะอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากกว่า 100 ตัว พวกลิงเหล่านี้มันจะชอบลงไปแช่ในบ่อน้ำพุร้อนออนเซ็นเพื่อคลายความหนาวเย็น แต่จะได้เห็นเฉพาะหน้าหนาวเท่านั้นนะคะ โดยนักท่องเที่ยวสามารถยืนชมเจ้าลิงแก้มแดงเหล่านี้ได้แบบห่าง ๆ อย่างห่วง ๆกันได้ค่ะ เห็นแล้วก็อดที่จะหยิบกล้องมาเก็บภาพน่ารัก ๆ เอาไว้ไม่ได้เลยจริง ๆ
สำหรับท่านใดที่สนใจอยากจะมาเที่ยวที่สวนพฤกษศาสตร์ฮาโกดาเตะแห่งนี้ก็สามารถเดินทางมาโดยเลือกใช้บริการรถรางสาย 5 หรือ 2 แล้วลงที่ป้าย Yunokawa Onsen จากนั้นให้เดินไปอีกประมาณ 5 นาที แล้วข้ามสะพานไปก็จะถึงสวนสวนพฤษศาสตร์ฮาโกดาเตะเลยค่ะ ที่นี่เค้ามีเสียค่าเข้าชมด้วยนะคะ โดยจะเปิดทุกวัน ไม่มีวันหยุดในช่วงเดือนเมษายน – ตุลาคม เวลา 09:30 – 18:00 น. และอีกช่วงเวลาในเดือนพฤศจิกายน – มีนาคม เวลา 09:30 – 16:30 น.
ส่งท้าย
7 สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองฮาโกดาเตะที่เลือกมานี้รับรองว่าเด็ดแน่นอน ได้ทั้งวิวสวย ที่กิน ที่ช็อป ถ้าได้ไปเยือนละก็ฟินสุด ๆ เลยค่ะ
บทความท่องเที่ยวฮอกไกโด
- การท่องเที่ยวฮอกไกโด (Hokkaido)
- สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองซัปโปโร (Sapporo) ที่ต้องมา Check-in!
- สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองโอตารุ (Otaru) ที่ต้องมา Check-in!
- สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองฮาโกดาเตะ (Hakodate) ที่ต้องมา Check-in!
- สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองฟุระโนะ (Furano) ที่ต้องมา Check-in!
- สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองบิเอะ (Biei) ที่ต้องมา Check-in!
- สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองอาซาฮิคาว่า (Asahikawa) ที่ต้องมา Check-in!
รีวิวขนมของฝากจากฮอกไกโด
- Shiroi Koibito : ขนมคุกกี้สอดไส้ช็อกโกแลต
- Mi-Fu-Yu : ขนมมิลล์เฟยเคลือบช็อกโกแลต
- Jaga Pokkuru : มันฝรั่งทอดพรีเมี่ยมจากฮอกไกโด
- Yubari Melon Steam Cake : เค้กเมล่อนจากฮอกไกโด
- Tiramisu Cheesecake : ทีรามิสุชีสเค้กไซส์มินิ
- ของฝากจากญี่ปุ่นทั้งหมด...ไปญี่ปุ่นซื้ออะไรดี? »