Home เที่ยวญี่ปุ่น ฝากกระเป๋าที่ตู้ล็อกเกอร์ (Coin Locker) ในญี่ปุ่น วิธีการง่ายนิดเดียว
ตู้ล็อกเกอร์ (Coin Locker) ในญี่ปุ่น

ฝากกระเป๋าที่ตู้ล็อกเกอร์ (Coin Locker) ในญี่ปุ่น วิธีการง่ายนิดเดียว

by NorthTempest
6412 views

ตู้ล็อกเกอร์ฝากกระเป๋า หรือ Coin Locker (コインロッカー) มีอยู่ในทุก ๆ สถานีรถไฟที่ญี่ปุ่นและมีจำนวนมากโดยเฉพาะสถานีใหญ่ที่สำคัญ เพราะไม่ใช่แค่นักท่องเที่ยวที่ต้องใช้เก็บกระเป๋าสัมภาระต่าง ๆ  แต่คนญี่ปุ่นเองก็นิยมใช้ล็อคเกอร์เหล่านี้ฝากของด้วยเพื่อที่จะไม่ต้องขนไปมาขึ้นรถไฟอันแน่นขนัด รวมถึงสามารถไปเดินเที่ยวได้อย่างสบาย ๆ ไม่ต้องหิ้วของให้หนัก

แต่บางครั้งป้ายอะไร ๆ ก็เขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นไปซะหมด แล้วจะใช้งานยังไงล่ะ?…ไม่ยากครับ วันนี้ผมจะมาแนะนำตัวอย่างวิธีการใช้ตู้ล็อคเกอร์และสิ่งที่ควรรู้ ซึ่งใช้งานง่ายมากไม่ต้องไปยืนอ่านวิธีใช้ให้เสียเวลา

ตู้ล็อคเกอร์ของสถานีรถไฟเกียวโต

ตู้ล็อคเกอร์ของสถานีรถไฟเกียวโต

วิธีการใช้งานตู้ล็อคเกอร์ในญี่ปุ่น

  1. เปิดตู้ล็อคเกอร์ เลือกขนาดตู้ที่ต้องการ สังเกตกุญแจที่เสียบไว้ แสดงว่าตู้นั้นยังว่างอยู่
  2. ใส่ของที่ต้องการในล็อคเกอร์ ปิดตู้ แล้วหยอดเงินตามจำนวนที่บอกไว้ (ค่าใช้บริการจะระบุเป็นตัวเลขดิจิตอลบนตู้)
  3. บิดกุญแจล็อคแล้วดึงกุญแจออก เก็บกุญแจไว้กับตัวให้ดี หรือถ้าเป็นตู้ที่มี PIN ให้ตั้งรหัสล็อค
  4. ตอนเปิดตู้ ให้นำกุญแจมาไขออก หรือใส่รหัส PIN

    ตู้ไซส์ขนาดกลาง 500 เยน ใส่กระเป๋าลากได้

    ตู้ไซส์ใหญ่สุด 700 เยน ใส่กระเป๋าเดินทาง 24 นิ้ว ได้ 1 ใบ

ข้อควรระวังในการใช้งาน

  • หลังจากล็อคแล้วเปิดตู้อีกครั้งจะถือว่าการเช่าสิ้นสุดลง ถ้าจะใช้งานต่อ ต้องจ่ายเงินอีกครั้ง ดังนั้นควรตรวจสอบให้ดีว่าใส่ของครบหรือไม่ลืมที่จะหยิบอะไรออกมาก่อนล็อคตู้
  • ควรจำเลขของตู้และสถานที่ตั้งของตู้ให้ดี เพราะในสถานีอาจมีจุดให้บริการตู้ล็อคเกอร์หลายจุดซึ่งอาจทำให้เกิดความสับสนได้ตอนมาเปิดตู้
  • ตู้ล็อคเกอร์มีระยะเวลาในการฝากของสูงสุดได้ 3 วัน ราคาที่ระบุนั้นเป็นราคาต่อวัน (นับเวลาตั้งแต่ 24:00 น. ถึง 24:00 น. ของอีกวัน) ถ้าฝากเกิน 1 วัน ตอนไขออกจะต้องมาหยอดเงินเพิ่ม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตู้แต่ละที่ ดังนั้นควรตรวจสอบเวลาให้ดีก่อนฝากระยะยาว
  • ห้ามฝากอาหารสดที่เน่าเสียได้ง่าย สารที่ระเบิดได้ ไปจนถึงของมีค่าสำคัญ

ข้อแนะนำในการใช้งาน

  • หากทำกุญแจหายหรือลืม PIN CODE ให้ติดต่อเจ้าหน้าตามเบอร์ติดต่อหน้าตู้
  • ในกรณีที่ไม่มีเหรียญ ให้สังเกตดูบริเวณโดยรอบอาจจะมีตู้แลกเงินอยู่ โดยจะรับแต่ธนบัตร 1,000 เยนเท่านั้นและทอนเงินเป็นเหรียญ 100 เยน
  • ตู้ที่สามารถฝากกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ได้นั้นมีอยู่จำนวนไม่มาก และมักเต็มอยู่ตลอด อาจต้องเดินหาตู้ในโซนอื่น หรือไปใช้บริการรับฝากระเป๋าแทน
ตู้แลกเหรียญ

ตู้แลกเหรียญสำหรับธนบัตร 1,000 เยน

นอกจากในสถานีรถไฟแล้ว ตามสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งในญี่ปุ่น เช่น พิพิธภัณฑ์ ห้างสรรพสินค้า ก็มีตู้ล็อคเกอร์ให้บริการด้วยนะครับ เรียกได้ว่าจะไปไหนก็เจอ เพียงแค่เอากระเป๋าใส่ตู้แล้วจ่ายเงินแค่นี้ เราก็เดินตัวปลิวไปช้อปชมชิมได้ตามใจชอบแล้ว เย่ๆ   (≧∀≦) ใครที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นก็แนะนำให้ลองใช้บริการตู้ล็อคเกอร์ดูนะครับ

บทความที่เกี่ยวข้อง