ตู้ล็อกเกอร์ฝากกระเป๋า หรือ Coin Locker (コインロッカー) มีอยู่ในทุก ๆ สถานีรถไฟที่ญี่ปุ่นและมีจำนวนมากโดยเฉพาะสถานีใหญ่ที่สำคัญ เพราะไม่ใช่แค่นักท่องเที่ยวที่ต้องใช้เก็บกระเป๋าสัมภาระต่าง ๆ แต่คนญี่ปุ่นเองก็นิยมใช้ล็อคเกอร์เหล่านี้ฝากของด้วยเพื่อที่จะไม่ต้องขนไปมาขึ้นรถไฟอันแน่นขนัด รวมถึงสามารถไปเดินเที่ยวได้อย่างสบาย ๆ ไม่ต้องหิ้วของให้หนัก
แต่บางครั้งป้ายอะไร ๆ ก็เขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นไปซะหมด แล้วจะใช้งานยังไงล่ะ?…ไม่ยากครับ วันนี้ผมจะมาแนะนำตัวอย่างวิธีการใช้ตู้ล็อคเกอร์และสิ่งที่ควรรู้ ซึ่งใช้งานง่ายมากไม่ต้องไปยืนอ่านวิธีใช้ให้เสียเวลา

ตู้ล็อคเกอร์ของสถานีรถไฟเกียวโต
วิธีการใช้งานตู้ล็อคเกอร์ในญี่ปุ่น
- เปิดตู้ล็อคเกอร์ เลือกขนาดตู้ที่ต้องการ สังเกตกุญแจที่เสียบไว้ แสดงว่าตู้นั้นยังว่างอยู่
- ใส่ของที่ต้องการในล็อคเกอร์ ปิดตู้ แล้วหยอดเงินตามจำนวนที่บอกไว้ (ค่าใช้บริการจะระบุเป็นตัวเลขดิจิตอลบนตู้)
- บิดกุญแจล็อคแล้วดึงกุญแจออก เก็บกุญแจไว้กับตัวให้ดี หรือถ้าเป็นตู้ที่มี PIN ให้ตั้งรหัสล็อค
- ตอนเปิดตู้ ให้นำกุญแจมาไขออก หรือใส่รหัส PIN
ตู้ไซส์ขนาดกลาง 500 เยน ใส่กระเป๋าลากได้
ตู้ไซส์ใหญ่สุด 700 เยน ใส่กระเป๋าเดินทาง 24 นิ้ว ได้ 1 ใบ
ข้อควรระวังในการใช้งาน
- หลังจากล็อคแล้วเปิดตู้อีกครั้งจะถือว่าการเช่าสิ้นสุดลง ถ้าจะใช้งานต่อ ต้องจ่ายเงินอีกครั้ง ดังนั้นควรตรวจสอบให้ดีว่าใส่ของครบหรือไม่ลืมที่จะหยิบอะไรออกมาก่อนล็อคตู้
- ควรจำเลขของตู้และสถานที่ตั้งของตู้ให้ดี เพราะในสถานีอาจมีจุดให้บริการตู้ล็อคเกอร์หลายจุดซึ่งอาจทำให้เกิดความสับสนได้ตอนมาเปิดตู้
- ตู้ล็อคเกอร์มีระยะเวลาในการฝากของสูงสุดได้ 3 วัน ราคาที่ระบุนั้นเป็นราคาต่อวัน (นับเวลาตั้งแต่ 24:00 น. ถึง 24:00 น. ของอีกวัน) ถ้าฝากเกิน 1 วัน ตอนไขออกจะต้องมาหยอดเงินเพิ่ม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตู้แต่ละที่ ดังนั้นควรตรวจสอบเวลาให้ดีก่อนฝากระยะยาว
- ห้ามฝากอาหารสดที่เน่าเสียได้ง่าย สารที่ระเบิดได้ ไปจนถึงของมีค่าสำคัญ
ข้อแนะนำในการใช้งาน
- หากทำกุญแจหายหรือลืม PIN CODE ให้ติดต่อเจ้าหน้าตามเบอร์ติดต่อหน้าตู้
- ในกรณีที่ไม่มีเหรียญ ให้สังเกตดูบริเวณโดยรอบอาจจะมีตู้แลกเงินอยู่ โดยจะรับแต่ธนบัตร 1,000 เยนเท่านั้นและทอนเงินเป็นเหรียญ 100 เยน
- ตู้ที่สามารถฝากกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ได้นั้นมีอยู่จำนวนไม่มาก และมักเต็มอยู่ตลอด อาจต้องเดินหาตู้ในโซนอื่น หรือไปใช้บริการรับฝากระเป๋าแทน

ตู้แลกเหรียญสำหรับธนบัตร 1,000 เยน
นอกจากในสถานีรถไฟแล้ว ตามสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งในญี่ปุ่น เช่น พิพิธภัณฑ์ ห้างสรรพสินค้า ก็มีตู้ล็อคเกอร์ให้บริการด้วยนะครับ เรียกได้ว่าจะไปไหนก็เจอ เพียงแค่เอากระเป๋าใส่ตู้แล้วจ่ายเงินแค่นี้ เราก็เดินตัวปลิวไปช้อปชมชิมได้ตามใจชอบแล้ว เย่ๆ (≧∀≦) ใครที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นก็แนะนำให้ลองใช้บริการตู้ล็อคเกอร์ดูนะครับ