สงสัยกันไหมว่ามีอะไรอยู่บนยอดเขาของศาลเจ้า Fushimi Inari Shrine?
Fushimi Inari Taisha หรือ ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari Shrine) สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของเมืองเกียวโต (Kyoto) เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวถึงความสวยงามของประตูศาลเจ้า Torii (โทริอิ) สีแดงที่เรียงรายกันขึ้นไปบนภูเขาอินาริ (Mount Inari) (บางครั้งก็นิยมเรียกกันว่า “ศาลเจ้าเสาแดง”) ซึ่งเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งเทพอินาริที่มีจิ้งจอกเป็นสัตว์คู่กาย ดังนั้นศาลเจ้าแห่งนี้จึงถูกประดับประดาไปด้วยรูปปั้นสุนัขจิ้งจอกนับร้อยกระจายไปทั่วทั้งพื้นที่
โดยทั่วไปแล้ว นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเดินชมประตูแดงอยู่ในช่วงชั้นแรก ๆ ของศาลเจ้า เป็นจุดที่มีประตูแดงจำนวนมากซึ่งได้รับบริจาคมาจากหน่วยงานและบริษัทห้างร้าน ประตูแดงของศาลเจ้าอินาริที่เราเห็นกันนั้นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของศาลเจ้าเท่านั้นเอง
ความจริงแล้วบริเวณของศาลเจ้าแห่งนี้ยังกินพื้นที่ไปถึงบนยอดภูเขาและนักท่องเที่ยวส่วนน้อยนักที่จะขึ้นไปถึงยอดเขาได้ สาเหตุหลักก็คือหลาย ๆ คนก็ไม่อยากจะเสียเวลากับการเดินขึ้นลง เพราะไม่รู้ว่าข้างบนมีอะไรคุ้มค่าแก่การเสียพลังงานขนาดไหน ถ้าอยากรู้ว่ามีอะไรคำตอบอยู่ในบทความนี้แล้วครับ อ่านต่อกันเลย!
ภูเขาอินาริ (Mount Inari) มีความสูงจากระดับน้ำทะเลเพียงแค่ 233 เมตร แต่ทางเดินขึ้นเขาเป็นทางเดินคดเคี้ยวเดินอ้อมไปมามากกว่าที่จะเดินขึ้นตรง ๆ ไปเลย นั่นเป็นเพราะพื้นที่บนภูเขายังมีศาลเจ้าย่อยตามจุดต่าง ๆ และเป็นสุสานเก็บกระดูกของคนตายอีกด้วย !!! Σ(°△°|||)︴
จากแผนที่แนะนำทางเดินขึ้น เขาบอกว่าใช้เวลาเดินขึ้นลงประมาณ 2-3 ชั่วโมง แล้วแต่ความฟิตของผู้เดิน ทางเดินเป็นบันไดหินที่มีความชันสลับซับซ้อนกันไป มีเดินขึ้นเดินลงตลอดทาง มีป้ายบอกทางเป็นระยะเพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวเดินออกนอกเส้นทาง ระหว่างทางจะมีรูปปั้นสุนัขจิ้งจอกที่เป็น Komakitsune (狛狐) ที่ปกปักษ์คุ้มภัยจากสิ่งชั่วร้ายตามทางด้วย (ช่วยให้เรารู้สึกดีหรือเปล่า?)
เมื่อเดินมาได้ประมาณ 30-40 นาทีจะมาถึงจุดชมวิวที่เรียกว่า Yo-tsuji (โยตทซึจิ) ตรงจุดนี้เราสามารถมองเห็นเมืองฟุชิมิทั้งเมือง สวยมากในช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกยามเย็น
เดินจากจุดชมวิวเราใช้เวลาอีกประมาณ 1-2 ชั่วโมงก็จะถึงยอดเขา แต่ในระหว่างทางนั้นก็จะรู้สึกวังเวงเป็นช่วง ๆ เพราะเราจะเริ่มพบปะผู้คนตามทางกันน้อยลง คนส่วนใหญ่จะเดินขึ้นมาดูวิวแค่ Yo-tsuji แล้วเดินลง แต่เรายังคงเดินขึ้นต่อไปเพื่อพิชิตยอดเขาของศาลเจ้า Fushimi Inari แห่งนี้ให้จงได้! ซึ่งสองข้างทางยังคงเรียงรายไปด้วยสุสานตลอดทาง… (-_-a บรึ๋ยยย~
เมื่อเดินขึ้นมาถึงด้านบนสุดของภูเขาอินาริ ก็จะพบกับศาลเทพเจ้าอินาริที่สร้างขึ้นเพื่อให้คนขึ้นมาขอพรนั่นเอง เหมือนข้างบนคือบ้านจริง ๆ ของท่านเทพ ส่วนข้างล่างเป็นแค่ที่ประทับชั่วคราว แน่นอนว่าจะขอพรก็ต้องหยอดเงินลงกล่องก่อนสั่นกระดิ่งเหมือนข้างล่างด้วยนะ ไม่อย่างนั้นเทพเจ้าอาจจะพิโรธได้ (◣_◢) (อันนี้คิดเอง)
ขากลับผิดคาดนิดหนึ่งเพราะพระอาทิตย์ตกไวมากกว่าที่คิด และนึกว่าทางเดินจะดูง่ายเหมือนตอนขึ้น เพราะแค่เดินตามทางเดินและประตูแดงก็น่าจะถึง กลับกลายเป็นว่าเราเจอทางแยกปริศนาที่จำไม่ได้ว่าตอนขึ้นมานี่เลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา…. แอบสงสัยว่าเทพเจ้าจะกลั่นแกล้งที่ขึ้นมาบ้านข้าแล้วไม่ยอมทำบุญหรือเปล่า 〣( ºΔº )〣
กลางวันกับกลางคืนต่างกันมากบรรยากาศโดยรอบดูมาคุขึ้นมาทันที นอกจากสุสานที่รายล้อมแล้วยังมีเงาดำทมึนของต้นไม้ เสียงอีกาและแมลงกลางคืน เพิ่มความน่ากลัวเข้าไปอีก เดินไปได้ 30 นาทีพบว่ามาผิดทางจริงๆด้วย -*- เพราะยิ่งเดินก็ยิ่งมืดและยิ่งเปลี่ยว โชคดีที่อ่านภาษาญี่ปุ่นออกเจอกับป้ายบอกทางที่กลับไปยังทางเดินหลักลงมาจนถึงศาลเจ้าใหญ่ได้ ขอบคุณท่านเทพอินาริลูกช้าง ผิดไปแล้วจ้า (シ_ _)シ
การเดินขึ้นเขาอินารินั้นแม้จะไม่ใช่ความยากระดับฮาร์ดคอร์แบบขึ้นเขาฟูจิหรือเอเวอร์เรส (เว่อร์ไป) แต่ก็จัดอยู่ในระดับที่ยากพอสมควรหากไม่มีการเตรียมตัวที่ดี ควรพกน้ำดื่ม อาหารเล็กน้อย รองเท้าที่เหมาะกับการเดินไกล ๆ และร่างกายที่พร้อมสำหรับเดินทาง เพราะเมื่อเลยจุดชมวิวแล้วจะไม่มีร้านค้าหรือตู้กดน้ำใด ๆ เลย รวมถึงห้องน้ำด้วย ใครอยากจะลองเพิ่มความท้าทายและประสบการณ์ใหม่ ๆ กับศาลเจ้า Fushimi Inari Shrine ก็ต้องลองเดินขึ้นไปบนยอดสุดดูครับ
บทความท่องเที่ยวเกียวโต
- 20 สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองเกียวโต (Kyoto) ที่ต้องมา Check-in!
- ภูเขา Hiei และวัด Enryaku-ji จุด Check-in Unseen ที่ต้องไปชม