เมืองคาวาโกเอะ (Kawagoe) ตั้งอยู่ในจังหวัดไซตามะ (Saitama) โดยอยู่ห่างจากเมืองหลวงอย่างโตเกียว (Tokyo) ด้วยรถไฟเพียงครึ่งชั่วโมง จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสำหรับการมาเยือนแบบไปเช้า – เย็นกลับใน 1 วันค่ะ
เนื่องจากคาวาโกเอะเป็นเมืองที่มีบรรยากาศเก่า ๆ ของยุคเอโดะ (Edo) หรือช่วงปี ค.ศ. 1603 – 1867 ซึ่งได้รับการอนุรักษ์เอาไว้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีความเกี่ยวข้องทั้งทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมกับโตเกียว ซึ่งในยุคสมัยนั้นยังมีชื่อเดิมว่า เอโดะ (Edo) ด้วยเหตุนี้เมืองคาวาโกเอะจึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “โคะเอโดะ (Koedo)” ซึ่งแปลได้ว่า “เอโดะน้อย” หรือ “เอโดะจิ๋ว” นั่นเอง
สำหรับการเดินทางมาเที่ยวคาวาโกเอะนั้นก็ไม่ยากเลยค่ะ โดยมีรถไฟให้เลือกหลายสาย ถ้าเร็วที่สุดก็เป็นรถด่วน Tobu-Tojo Line (Rapid หรือ Express) จากสถานี Ikebukuro ในโตเกียว มาลงที่สถานี Kawagoe ซึ่งจะใช้เวลาเพียง 30 นาที หรือนั่งสาย JR Saikyo Line (Rapid) จากสถานี Ikebukuro หรือShinjuku มาลงที่สถานี Kawagoe ก็จะใช้เวลาประมาณ 50 – 55 นาทีค่ะ
5 สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองคาวาโกเอะที่ห้ามพลาด!
วัดคิตะอิน (Kitain Temple)
( แผนที่)

สถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของเมืองนี้ที่อยากจะแนะนำให้นักท่องเที่ยวมาไว้พระขอพรกันอย่าง “วัดคิตะอิน (Kitain Temple)” มีชื่อเดิมว่า “วัดเซยะซัง มุเรียวชูจิ คิตะอิน (Seiyasan Muryoshuji Kitain)” ถือเป็นวัดเก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดอีกแห่งหนึ่งของเมืองคาวาโกเอะวัดแห่งนี้สร้างขึ้นประมาณปี ค.ศ. 830 ซึ่งเป็นยุคของเอโดะ (Edo) โดยหลวงพ่อเท็นได โชโจ (Tenkai Sojo) และเป็นวัดประจำตระกูลของท่านโชกุนโทกุกาวะ อิเอยาสุ (Tokugawa Ieyasu) ซึ่งเป็นผู้ที่มีอิทธิพลอย่างมากในสมัยนั้น จากนั้นในช่วงปี ค.ศ. 1638 ได้เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ทำให้วัดแห่งนี้ได้รับความเสียหายอย่างมาก และถือเป็นความโชคร้ายอีกครั้งในปี ค.ศ. 1923 ได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 จนเป็นเหตุให้วัดแห่งนี้ถูกทำลายอย่างหนักที่เหลือเพียงซากอาคารโบราณไม่กี่หลังให้ได้เห็นกันค่ะ
ปัจจุบัน วัดคิตะอินแห่งนี้ยังคงได้รับการดูแลรักษาไว้เป็นอย่างดีและเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเที่ยวชมกันตลอดทั้งปี ภายในวัดแห่งนี้ยังประกอบไปด้วยวิหารหลัก เจดีย์แดง และสวนหินที่มีพระพุทธรูปหินแกะสลักซึ่งมีอิริยาบทแตกต่างกันจำนวนมากกว่า 500 รูปที่ตั้งเรียงรายกันอยู่อย่างเป็นระเบียบ ว่ากันว่ามีอายุกว่า 200 ปีมาแล้วค่ะ
ที่สำคัญวัดแห่งนี้ยังกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในการชมดอกซากุระบานในช่วงปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายนที่นักท่องเที่ยวมักเดินทางมากันเป็นจำนวนมาก และสำหรับท่านใดที่อยากจะเดินทางมาชื่นชมความงามของวัดคิตะอินแห่งนี้ให้เริ่มต้นจากสถานี Kawagoe แล้วนั่งรถบัส Kawagoe Loop Bus มาลงป้าย Kitain Temple หรือถ้ามาจากสถานี Hon-Kawagoe ให้เดินมาทางทิศตะวันออกประมาณ 15 นาทีค่ะ
ถนนโกดังเก่า คุราซุคุริ (Kurazukuri)
( แผนที่)

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตติดเทรนด์ของคาวาโกเอะที่มีความคลาสิกและมีมนต์เสน่ห์อย่าง “ถนนโกดังเก่า คุราซุคุริ (Kurazukuri)” หรือ Warehouse District ถือเป็นย่านการค้าที่มีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมากในอดีต ทำให้พ่อค้าส่วนใหญ่มีการสร้างโกดังเพื่อจัดเก็บสินค้าไว้เป็นจำนวนมาก โดยคำว่า ‘kura’ ที่มีความหมายว่า ‘โกดัง’ คือที่มาของชื่อถนน ‘Kurazukuri’ นั่นเองค่ะ
ถนนคุราซุคุริถือว่าเป็นถนนคนเดินเก่าแก่ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อย่างมากของเมืองคาวาโกเอะ ตลอดสองข้างทางจะพบว่ามีสิ่งก่อสร้างตามอาคารบ้านเรือนถูกสร้างด้วยไม้ทั้งหมดตั้งแต่สมัยเอโดะ (Edo) หรือมีอายุกว่า 400 ปีมาแล้ว ปัจจุบันก็ได้มีการดูแลและอนุรักษ์อาคารต่างๆ ไว้เป็นอย่างดี และเปิดพิพิธภัณฑ์หรือร้านค้าต่างๆ ถือเป็นอีกย่านที่เหมาะแก่การมาเดินเล่นชิลๆ ถ่ายภาพสวยๆ เก็บบรรยากาศเอาไว้ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็มักจะนิยมเช่าชุดกิโมโนมาสวมใส่เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศเมืองเก่าที่เห็นแล้วก็เหมือนได้หลงเข้ามาในยุคโบราณกันเลยทีเดียว
สำหรับนักท่องเที่ยวท่านใดที่อยากจะเดินทางมาเพื่อสัมผัสบรรยากาศความเป็นเมืองโบราณตั้งแต่สมัยเอโดะที่ยังคงหลงเหลือให้ได้ชมกันอย่างถนนโกดังเก่า คุราซุคุริ ก็ให้นั่งรถบัส Kawagoe Loop Bus จากสถานี Kawagoe มาลงที่ป้าย Ichibangai หรือถ้ามาจากสถานี Hon-Kawagoe ให้เดินมาประมาณ 10 นาทีค่ะ
หอนาฬิกาโทคิ โนะ คาเนะ (Toki no Kane)
( แผนที่)

เราก็ยังอยู่กันในย่านเมืองโกดังเก่าของคาวาโกเอะ กับหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญนั่นก็คือ “หอนาฬิกาโทคิ โนะ คาเนะ (Toki no Kane)” หรือมีชื่อในภาษาอังกฤษว่า “Time Bell Tower” เป็นหอนาฬิกาโบราณมีโครงสร้าง 3 ชั้น สูงประมาณ 16 เมตร สร้างขึ้นในสมัยเอโดะ (Edo) ประมาณปี ค.ศ. 1627 – 1634
ตัวหอนาฬิกาที่เห็นในปัจจุบันนั้นได้มีการสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1894 หลังจากที่ได้ถูกทำลายโดยเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ของเมืองคาวาโกเอะ และเมื่อไม่นานมานี้เองเมื่อเดือนมกราคม ค.ศ. 2017 ก็ได้มีการปรับปรุงและซ่อมแซมหอนาฬิกาแห่งนี้เพื่อให้สามารถรองรับต่อแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวได้มากขึ้นนั่นเอง
สำหรับหอนาฬิกาโทคิ โนะ คาเนะแห่งนี้ใช้ในการบอกเวลาให้กับชาวเมืองนี้ผ่านการลั่นระฆังที่ตั้งอยู่ด้านบนหอคอยสูง ซึ่งช่วงเวลาที่จะได้ยินเสียงดังของระฆังนั้นมีอยู่ 4 ช่วงเวลาต่อวันนั่นคือ 6:00, 12:00, 15:00 และ 18:00 น. นั่นเองค่ะ สามารถแวะมาฟังเสียงและถ่ายรูปคู่กับแลนด์มาร์คของเมืองแห่งนี้ได้ค่ะ
ตรอกขนมหวาน คาชิยะ โยโกโช (Kashiya Yokocho)
( แผนที่)

ใครที่ชื่นชอบขนมหวานแสนน่ารัก ๆ และลูกกวาดหลากสีสันชวนให้น้ำลายไหล โดยเฉพาะเด็ก ๆ หากได้แวะมาที่ “ตรอกขนมหวาน คาชิยะ โยโกโช (Kashiya Yokocho)” หรืออีกชื่อที่ดูอินเตอร์ ๆ หน่อยคือ “Penny Candy Alley” ถือเป็นตรอกขนมหวานเก่าแก่ของเมืองคาวาโกเอะที่มีมายาวนานแล้ว…ว่ากันว่าเริ่มมีมาตั้งแต่ยุคของเมจิกันเลยทีเดียว ในอดีตยังเคยเป็นแหล่งผลิตและจำหน่ายขนมหวานเพื่อส่งไปยังเมืองต่าง ๆ อีกด้วยนะคะ
Kashiya Yokocho เป็นตรอกดั้งเดิมที่เต็มไปด้วยร้านจำหน่ายขนมหวานที่ตั้งอยู่มากมายตลอดสองข้างทางเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เดินเลือกซื้อกันอย่างจุใจ ไม่ว่าจะซื้อทานกันเพลิน ๆ พร้อมกับการเดินชมบรรยากาศของเมืองหรือจะซื้อกลับไปเป็นของฝากก็ได้เช่นกันค่ะ และขนมที่ขึ้นชื่อลือชาของย่านนี้ที่ใครหลายคนต้องตามหากันก็คือ ขนมเซมเบ้สไตล์ญี่ปุ่น ขนมที่ทำจากมันหวาน และขนมอื่น ๆ อีกมากมายที่มีทั้งแปลกใหม่ให้ได้ลองชิมกันค่ะ
สำหรับนักท่องเที่ยวท่านใดที่อยากจะเดินทางมาเพื่อลิ้มลองขนมหวานและลูกกวาดหลากหลายแบบพร้อมเดินชิลล์กับบรรยากาศเมืองเก่า หรือจะซื้อกลับไปเป็นของฝากเก๋ๆ จาก “ตรอกขนมหวาน คาชิยะ โยโกโช (Kashiya Yokocho)” แห่งนี้ก็สามารถเดินมาจาก “หอนาฬิกาโทคิ โนะ คาเนะ (Toki no Kane)” ได้เลยค่ะ ใช้เวลาเพียงแค่ 3 – 5 นาทีเท่านั้นเอง
ปราสาทคาวาโกเอะ (Kawagoe Castle) / ฮอนมารุ โกเท็น (Honmaru Goten)
( แผนที่)

สิ่งก่อสร้างโบราณที่ยังคงความงดงามและให้ความรู้สึกในบรรยากาศเก่าก่อนที่ยังไม่เคยจางหายอย่าง “ปราสาทคาวาโกเอะ (Kawagoe Castle)” หรือมีอีกชื่อว่า “ฮอนมารุ โกเท็น (Honmaru Goten)” เป็นปราสาทเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์ของเมืองคาวาโกเอะที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1457
ฮอนมารุ โกเท็นเป็นอาคารเดียวชั้นในสุดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ให้ได้เห็นกันของประสาทคาวาโกเอะแห่งนี้ เนื่องจากอาคารอื่นๆ ได้รับความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้อย่างหนัก หลังจากนั้นไม่นานปราสาทแห่งนี้ได้รับการบูรณะและซ่อมแซมขึ้นมาใหม่ในส่วนที่หลุดรอดจากไฟไหม้ ต่อมาได้เปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้เข้าชมเมื่อปี ค.ศ. 2011 จากนั้นเป็นต้นมาค่ะ
ฮอนมารุ โกเท็นแห่งนี้มีลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียวที่สร้างขึ้นด้วยไม้ทั้งหลัง ภายในมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างขวางโอ่อ่า แต่ละห้องถูกปูพื้นด้วยเสื่อทาทามิที่ให้ความรู้สึกแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมค่ะ และยังมีรูปปั้นที่จำลองการใช้ชีวิตของคนในสมัยนั้นให้นักท่องเที่ยวได้ดูกันอีกด้วยนะคะ หลังจากเดินถ่ายภาพความสวยงามจากด้านในเสร็จแล้ว หากเดินมาบริเวณด้านนอกจะพบว่ามีสวนหย่อมสไตล์ญี่ปุ่นที่มีการตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ร่มรื่น เหมาะแก่การเดินกินลมชมบรรยากาศรอบๆ เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการเดินทางท่องเที่ยวตลอดทั้งวันค่ะ
ปราสาทคาวาโกเอะหรือฮอนมารุ โกเท็นนี้อยู่ไม่ไกลจากย่าน “ถนนโกดังเก่า คุราซุคุริ (Kurazukuri Street)” และ “วัดคิตะอิน (Kitain Temple)” สามารถเดินมาได้โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที หรือถ้านั่งรถบัสมาก็ให้ลงที่ป้าย City Museum ค่ะ
ส่งท้าย
สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองคาวาโกเอะทั้ง 5 แห่งนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบบรรยากาศแบบย้อนยุคมากเลยนะคะ ใครที่มาเที่ยวแถบโตเกียว แล้วอยากออกมาเที่ยวรอบนอก สามารถใส่ไว้ในแพลนได้เลยจ้า
แหล่งท่องเที่ยวรอบโตเกียว
- 12 เมืองน่าเที่ยวรอบโตเกียว แบบไปเช้า – เย็นกลับได้โดย JR TOKYO Wide Pass
- สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองโยโกฮาม่า (Yokohama) ที่ต้องมา Check-in!
- สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองนิกโก (Nikko) ที่ต้องมา Check-in!
- สถานที่ท่องเที่ยวรอบคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko) ที่ต้องมา Check-in!
แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในญี่ปุ่น
- สถานที่ท่องเที่ยวในโตเกียว (Tokyo) ที่ต้องมา Check-in!
- สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองซัปโปโร (Sapporo) ที่ต้องมา Check-in!
- สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองโอซาก้า (Osaka) ที่ต้องมา Check-in!
- สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองเกียวโต (Kyoto) ที่ต้องมา Check-in!
- สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองนาโกย่า (Nagoya) ที่ต้องมา Check-in!
- สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองฟุกุโอกะ (Fukuoka) ที่ต้องมา Check-in!