ศึกษาความเป็นมาของประเทศญี่ปุ่น แบบง่าย ๆ ได้อย่างน่าสนใจที่พิพิธภัณฑ์เอโดะ โตเกียว (EDO-TOKYO MUSEUM / 江戸東京博物館) เดินทางมาสะดวก นั่งรถไฟสาย JR Seibu Line มาลงที่สถานี Ryogoku อยู่ห่างเพียง 2 สถานีจาก Akihabara หรือนั่งรถไฟใต้ดินสาย Toei Oedo Line ก็ได้ ลงรถไฟปุ๊บเดินอีกนิดเดียวก็ถึงเลยเพราะอยู่ติดสถานี
พิพิธภัณฑ์เปิดทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์และวันหยุดราชการ เวลาเปิดปิด คือ 9.30-17.30 น. ส่วนวันเสาร์ 9.30-19.30 น. แนะนำว่าให้เช็คเวลาเปิดปิดและเส้นทางมาก่อนเดินทางได้จากเว็บนี้เลยครับ https://www.edo-tokyo-museum.or.jp/en/information/
รีวิว EDO-TOKYO MUSEUM (พิพิธภัณฑ์เอโดะ โตเกียว)
สถานีรถไฟ Ryogoku มีเอกลักษณ์อันโดดเด่นด้วยรูปนักซูโม่มากมาย เพราะว่าสถานีนี้เป็นที่ตั้งของลานซูโม่ด้วยเช่นกัน จากสถานีเราจะเดินไปยังพิพิธภัณฑ์ได้ไม่ยากเพราะมีป้ายบอกทางตลอด
ตัวอาคารอาจจะสังเกตยากนิดหนึ่งเพราะไม่มีป้ายเขียนเป็นภาษาอังกฤษ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีงานจัดแสดงอื่น ๆ ด้วยโดยจะหมุนเวียนเปลี่ยนกันไป แต่ EDO-TOKYO MUSEUM (พิพิธภัณฑ์เอโดะ โตเกียว) จะเป็น Permanent Exhibition ของที่นี่
สามารถซื้อบัตรเข้าชมได้ที่หน้าทางเข้าเลย โดยราคาสำหรับผู้ใหญ่อยู่ที่ 600 เยน เท่านั้น ไม่มีราคาพิเศษสำหรับคนญี่ปุ่นหรือชาร์จเพิ่มสำหรับชาวต่างชาติ ซึ่งถือว่าถูกมากกก เพราะข้างในมีอะไรให้ชมเยอะ คุ้มค่าบัตรสุด ๆ ส่วนจัดแสดงจะอยู่ชั้น 5 หลังจากซื้อบัตรแล้วก็เดินไปขึ้นลิฟต์ด้านหลังได้เลย
เมื่อเข้ามาจะพบสะพานใหญ่ตรงหน้า คือ สะพาน Nihonbashi ที่เป็นสะพานเก่าแก่ในสมัยเอโดะที่ปัจจุบันก็ยังคงมีอยู่ แต่เป็นสะพานคอนกรีตไปแล้ว ในส่วนจัดแสดงนี้จะเกี่ยวกับยุคสมัยเอโดะทั้งหมด หลังจากที่ตระกูลโตกุกาวะชนะสงครามรวมญี่ปุ่นเป็นประเทศและสร้างเมืองเอโดะขึ้นมาซึ่งก็คือโตเกียวในปัจจุบันนั่นเอง
ถ้าเราสนใจจะศึกษาประวัติศาสตร์อย่างละเอียด มีบริการเช่า Audio Guide ที่จะคอยอธิบายส่วนจัดแสดงแต่ละส่วนให้เราฟังกันด้วย
บริเวณรอบ ๆ เมืองจำลองจะมีการแสดงเครื่องมือของใช้ต่าง ๆ ในสมัยเอโดะ มีทั้งของเก่าตั้งแต่ในยุคนั้นจนถึงของจำลองที่ทำเลียนแบบขึ้นมาให้ดู ที่สำคัญมีคำอธิบายเป็นภาษาไทยด้วยอเมซซิ่งมาก ๆ
เมื่อเดินลงด้านล่างจะเป็นส่วนจัดแสดงชีวิตการเป็นอยู่ของคนญี่ปุ่นในสมัยเอโดะ โดยเราสามารถเข้าไปถ่ายรูปในบ้าน (ในบางจุด) ได้ด้วย ให้เราได้ใกล้ชิด สัมผัสกับความเป็นอยู่ของคนในอดีตได้มากขึ้น ทำให้เห็นเลยว่าคนญี่ปุ่นนี่อยู่บ้านแคบ ๆ มากันตั้งแต่สมัยเอโดะจนถึงทุกวันนี้เลย
ในส่วนสุดท้ายจะเป็นการเรียงลำดับความเปลี่ยนแปลงของสมัยเอโดะจนมาถึงปัจจุบัน ทั้งด้านสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมที่รับมาจากตะวันตก มีการจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ มีของอะไรที่อาจจะทำให้เรานึกถึงในวัยเด็กด้วยนะ
และส่วนสุดท้ายหน้าทางออกเป็นร้านขายของที่ระลึก ของที่ขายที่นี่จะไม่มีขายข้างนอกแน่นอน แต่ราคาก็แอบแพงเอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะ O_o
ก็หมดแล้วสำหรับการเดินชม EDO-TOKYO MUSEUM (พิพิธภัณฑ์เอโดะ โตเกียว) แห่งนี้ ถ้าเดินดูอย่างละเอียด คิดว่าน่าจะใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว ถ้าเบื่อที่จะเดินช้อปปิ้ง ก็อยากให้ลองมาเดินดูที่นี่กันครับ ค่าเข้าก็ไม่แพงและได้ความรู้ติดตัวกลับไปเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังได้อีกด้วย