คนที่อยากเที่ยวใกล้ ๆ กับเมืองหลวง เราก็มี 12 เมืองน่าเที่ยวรอบโตเกียวมาแนะนำค่ะ โดยเมืองทั้งหมดนั้นสามารถใช้บัตร JR TOKYO Wide Pass เดินทางไปได้ ซึ่ง Pass นี้ก็เป็นตั๋วเหมาจ่ายราคาประหยัด 15,000 เยน (เด็ก 7,500 เยน) เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวรอบโตเกียวในแถบภูมิภาคคันโต (Kanto) และในบางเมืองของภูมิภาค (Chubu)
นอกจากเมืองน่าเที่ยวรอบโตเกียวแล้ว ในบทความนี้เรายังแนะนำวิธีการเดินทางเบื้องต้นและระยะเวลาในการเดินทางจากสถานีหลัก ๆ ในโตเกียวอีกด้วย เพื่อเป็นแนวทางในการวางแผนการท่องเที่ยวนะคะ
ทำไมควรซื้อบัตร JR TOKYO Wide Pass?
จุดเด่นที่สำคัญของพาส JR TOKYO Wide Pass ก็คือการใช้นั่งรถไฟที่เข้าร่วมได้ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว ภายในระยะเวลา 3 วันติดกันค่ะ โดยสามารถนั่งรถไฟของบริษัท JR (กลุ่มบริษัทรถไฟของญี่ปุ่น) แบบธรรมดา แบบด่วน รถไฟชินคันเซ็น ทั้งแบบไม่จองที่นั่งและแบบจองที่นั่ง รวมถึงรถไฟของบริษัทเอกชนที่เข้าร่วมได้อีกด้วยค่ะ
JR TOKYO Wide Pass จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ต้องการเที่ยวรอบ ๆ โตเกียวที่ต้องนั่งรถไฟด่วนพิเศษและชินคันเซ็นค่ะ อย่างคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko) จุดชมวิวฟูจิยอดนิยม, นิกโก้ (Nikko) เมืองมรดกโลกและแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ, คารุอิซาว่า (Karuizawa) เมืองตากอากาศและยังมีเอาท์เล็ทขนาดใหญ่, กาล่า ยูซาว่า สโนว์ รีสอร์ท (Gala Yuzawa Snow Resort) ลานสกียอดนิยม ซึ่งถ้าใช้พาสก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปได้ และจะยิ่งคุ้มสำหรับคนที่อยากเดินทางแบบไปเช้า-เย็นกลับค่ะ
สำหรับตารางการเดินทางที่แน่นอนและค่าโดยสารในแต่ละเที่ยว (ดูว่าคุ้มหรือไม่คุ้มถ้าใช้พาสในช่วงการเดินทาง) สามารถตรวจสอบได้กับ Google Map หรือเว็บไซต์เช็คเส้นทางการเดินทางของญี่ปุ่นได้เลยค่ะ เช่น japantravel.navitime.com โดยให้ใส่สถานีเริ่มต้นและสถานีปลายทาง รวมทั้งเวลาที่จะออกเดินทางค่ะ
ส่วนรายละเอียดต่าง ๆ และเงื่อนไขการใช้งานของบัตร JR TOKYO Wide Pass สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อ ข้อมูลบัตร JR TOKYO Wide Pass
เมืองน่าเที่ยวรอบโตเกียวโดยใช้ JR TOKYO Wide Pass
1. โยโกฮาม่า (Yokohama)
— จังหวัดคานากาว่า (Kanagawa)
( แผนที่)
เมืองโยโกฮาม่า (Yokohama) เป็นเมืองที่ใหญ่รองจากโตเกียวเลยค่ะ เมืองนี้เป็นเมืองท่าที่โรแมนติก มีวิวและแลนด์มาร์คสวย ๆ ให้ชมหลายที่ อย่างบริเวณท่าเรือ Osanbashi สวนสาธารณะริมทะเล Yamashita Park ขึ้นไปชมวิวมุมสูงที่ Yokohama Marine Tower หรือ Yokohama Landmark Tower และเพลิดเพลินไปกับสวนสนุก Yokohama Cosmo World และพิพิธภัณฑ์ราเมง Cup Noodles Museum แวะช้อปปิ้งที่ Red Brick Warehouse (Akarenka) ในโซน Minato Mirai 21 และย่าน Chinatown เป็นต้น [ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองโยโกฮาม่า »]
ตัวอย่างการเดินทางด้วย TOKYO Wide Pass
- นั่งรถไฟสาย JR Tokaido Line หรือ JR Keihin-Tohoku Line จากสถานี TOKYO มาลงที่สถานี YOKOHAMA ใช้เวลาประมาณ 25 – 35 นาที
- นั่งรถไฟสาย JR Keihin-Tohoku/Negishi Line จากสถานี UENO มาลงที่สถานี YOKOHAMA ใช้เวลาประมาณ 45 นาที
- นั่งรถไฟสาย JR Shonan Shinjuku Line จากสถานี SHINJUKU หรือ SHIBUYA มาลงที่สถานี YOKOHAMA ใช้เวลาประมาณ 25 – 30 นาที
2. คามาคุระ (Kamakura)
— จังหวัดคานากาว่า (Kanagawa)
( แผนที่)
เมืองคามาคุระ (Kamakura) มีแลนด์มาร์คที่เป็นที่รู้จักดีคือ วัดพระใหญ่ Kotokuin Temple ซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน Daibutsu พระพุทธรูปสูงกว่า 11 เมตร นอกจากนั้นแล้วภายในเมืองคามาคุระยังมีวัดเก่าแก่อีกหลายแห่ง เช่น Hase Temple, Hokokuji Temple, Kenchoji Temple, Engakuji Temple รวมถึงศาลเจ้า อาทิ Hachimangu Shrine, Zeniarai Benten Shrine เป็นต้น
ตัวอย่างการเดินทางด้วย TOKYO Wide Pass
- นั่งรถไฟสาย JR Yokosuka Line จากสถานี TOKYO มาลงที่สถานี KAMAKURA ใช้เวลาประมาณ 60 นาที
- นั่งรถไฟสาย JR Shonan Shinjuku Line จากสถานี SHINJUKU มาลงที่สถานี KAMAKURA ใช้เวลาประมาณ 60 นาที
3. ฮาโกเน่ (Hakone)
— จังหวัดคานากาว่า (Kanagawa)
( แผนที่)
ฮาโกเน่ (Hakone) เป็นแหล่งท่องเที่ยวรอบโตเกียวที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากมีกิจกรรมให้ทำหลายอย่างเช่น การแช่ออนเซ็น, นั่งกระเช้าลอยฟ้า Hakone Ropeway, ทานไข่ดำที่หุบเขา Owakudani, ล่องเรือในทะเลสาบ Lake Ashi, นั่งรถไฟสาย Hakone Tozan Railway เพื่อชมวิว, ขอพรที่ศาลเจ้า Hakone Shrine เป็นต้น
ตัวอย่างการเดินทางด้วย TOKYO Wide Pass
- นั่งรถไฟสาย JR Tokaido Line จากสถานี TOKYO มาลงที่สถานี ODAWARA ใช้เวลาประมาณ 70-80 นาที จากนั้นต้องต่อรถไฟสาย Hakone Tozan Railway มายังสถานี HAKONE-YUMOTO
หมายเหตุ
- ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มในการเดินทางระหว่างสถานี ODAWARA และ HAKONE-YUMOTO เพราะ TOKYO Wide Pass ไม่ครอบคลุมในเส้นทางนี้
- เนื่องจากการเดินทางท่องเที่ยวในฮาโกเน่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงจึงแนะนำให้ซื้อตั๋ว Hakone FreePass ซึ่งเป็นตั๋วเหมาจ่ายที่สามารถใช้เดินทางจากโตเกียว รวมถึงการโดยสารพาหนะต่าง ๆ ระหว่างท่องเที่ยวในฮาโกเน่ได้ในราคาประหยัด
4. คาวากุจิโกะ (Kawaguchiko)
— จังหวัดยามานาชิ (Yamanashi)
( แผนที่)
คาวากุจิโกะ (Kawaguchiko) มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ คือ ทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Lake Kawaguchiko) ซึ่งเป็นหนึ่งในทะเลสาบรอบภูเขาไฟฟูจิและเป็นจุดที่สามารถชมวิวของฟูจิโดยมีเบื้องหน้าเป็นทะเลสาบอย่างสวยงาม ภายในเมืองยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น พิพิธภัณฑ์เครื่องดนตรี Kawaguchiko Music Forest, นั่งกระเช้าชมวิว Kachi Kachi Ropeway รวมถึงการแวะเที่ยวชมเจดีย์แดง Chureito Pagoda, สวนสนุก Fuji-Q Highland, และหมู่บ้านน้ำใส Oshino Hakkai ซึ่งอยู่ใกล้กับคาวากุจิโกะ [ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวรอบทะเลสาบคาวากุจิโกะ »]
ตัวอย่างการเดินทางด้วย TOKYO Wide Pass
- นั่งรถไฟสาย Limited Express AZUZA หรือ KAIJI จากสถานี SHINJUKU มาลงที่สถานี OTSUKI ใช้เวลาประมาณ 60 นาที และต่อรถไฟของ Fujikyu Railway มาลงที่สถานี KAWAGUCHIKO ใช้เวลาประมาณ 55 นาที
- นั่งรถไฟขบวน FUJI EXCURSION จากสถานี SHINJUKU มาลงที่สถานี KAWAGUCHIKO ใช้เวลาประมาณ 115 นาที
หมายเหตุ
- TOKYO Wide Pass ครอบคลุมในเส้นทางของ Fujikyu Railway แต่ถ้าขึ้นตู้แบบจองที่นั่งสำหรับขบวน Fujisan Express, Fujisan View Express ต้องจ่ายเงินเพิ่ม
- มีตั๋วสำหรับนั่งรถบัสท่องเที่ยวรอบทะเลสาบคาวากุจิโกะแบบไม่จำกัดเที่ยว สามารถซื้อได้ที่จุดจำหน่ายภายในสถานี KAWAGUCHIKO
5. โอมิยะ (Omiya)
— จังหวัดไซตามะ (Saitama)
( แผนที่)
เมืองโอมิยะ (Omiya) เป็นเมืองใจกลางของจังหวัดไซตามะ (Saitama) ภายในเมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ผสมผสานทั้งแบบดั้งเดิม เช่น ศาลเจ้า Hikawa Shrine, สวนบอนไซ Omiya Bonsai Village, พิพิธภัณฑ์บอนไซ Omiya Bonsai Art Museum, พิพิธภัณฑ์รถไฟ Railway Museum รวมถึงศูนย์การค้าและแหล่งช้อปปิ้งที่อยู่รายล้อมสถานี OMIYA
ตัวอย่างการเดินทางด้วย TOKYO Wide Pass
- นั่งรถไฟ JR Utsunomiya Line จากสถานี UENO หรือ TOKYO มาลงที่สถานี OMIYA ใช้เวลาประมาณ 25 – 35 นาที
- นั่งรถไฟความเร็วสูง Tohoku Shinkansen YAMABIKO จากสถานี UENO หรือ TOKYO มาลงที่สถานี OMIYA ใช้เวลาประมาณ 20 – 25 นาที
- นั่งรถไฟ JR Saikyo Line หรือ JR Shonan-Shinjuku Line จากสถานี IKEBUKURO หรือ SHINJUKU มาลงที่สถานี OMIYA ใช้เวลาประมาณ 30 – 40 นาที
หมายเหตุ
- TOKYO Wide Pass สามารถใช้นั่งรถไฟสาย Saitama New Urban Transit Line (New Shuttle) จากสถานี OMIYA มายังสถานี Tetsudo Hakubutsukan ซึ่งอยู่ใกล้กับ Railway Museum ได้ฟรี
6. คาวาโกเอะ (Kawagoe)
— จังหวัดไซตามะ (Saitama)
( แผนที่)
เมืองคาวาโกเอะ (Kawagoe) ได้ฉายาว่าเป็นเมืองเอโดะจิ๋ว (Little Edo) เพราะเป็นเมืองที่อนุรักษ์บรรยากาศเก่า ๆ ในสมัยเอโดะ หรือประมาณ 200 ปีก่อนเอาไว้ ถนนที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองนั้นก็คือ Kurazukuri ซึ่งเป็นย่านโกดังเก่าที่ปัจจุบันเปิดเป็นร้านค้าต่าง ๆ และ Kashiya Yokocho ตรอกซึ่งเป็นแหล่งรวมร้านขายลูกกวาดและขนม ภายในเมืองคาวาโกเอะก็ยังมีวัดที่มีชื่อเสียงซึ่งก็คือ Kitain Temple วัดเก่าแก่ที่มีพระพุทธรูปหินประมาณ 540 องค์ ที่มีใบหน้าและอิริยาบถที่แตกต่างกัน
[ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองคาวาโกเอะ »]
ตัวอย่างการเดินทางด้วย TOKYO Wide Pass
- นั่งรถไฟสาย JR Saikyo Line Rapid จากสถานี IKEBUKURO หรือ SHINJUKU มาลงที่สถานี KAWAGOE ใช้เวลาประมาณ 50 – 55 นาที
หมายเหตุ
- มีตั๋ว Loop Bus สำหรับนั่งรถบัสท่องเที่ยวในคาวาโกเอะแบบไม่จำกัดเที่ยวใน 1 วัน สามารถซื้อได้ที่จุดจำหน่ายภายในสถานี KAWAGOE
7. นิกโก้ (Nikko)
— จังหวัดโทชิงิ (Tochigi)
( แผนที่)
เมืองนิกโก้มีสถานที่ที่สำคัญคือ ศาลเจ้า Toshogu Shrine, Futarasan Shrine และวัด Rinnoji Temple ซึ่งได้รับเลือกจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลก นอกจากนี้ก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความสวยงามและได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี เช่น สะพานแดง Shinkyo Bridge, ทะเลสาบ Lake Chuzenji, น้ำตก Ryuzu Waterfall และ Kegon Waterfall เป็นต้น อีกทั้งยังสามารถไปแช่ออนเซ็นที่ Kinugawa Onsen ที่อยู่ใกล้กับนิกโก้ก็ได้ [ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองนิกโก (Nikko) »]
ตัวอย่างการเดินทางด้วย TOKYO Wide Pass
- นั่งรถไฟความเร็วสูง Tohoku Shinkansen YAMABIKO จากสถานี TOKYO หรือ UENO มาลงที่สถานี UTSUNOMIYA ใช้เวลาประมาณ 50 นาที แล้วต่อรถไฟสาย JR Nikko Line มาลงที่สถานี JR NIKKO ใช้เวลาประมาณ 50 นาที
- นั่งรถไฟสาย Limited Express SPACIA Nikko จากสถานี SHINJUKU มาลงที่สถานี TOBU-NIKKO ใช้เวลาประมาณ 120 นาที
หมายเหตุ
- มีตั๋ว Tobu Nikko Bus Pass สำหรับนั่งรถบัสท่องเที่ยวในนิกโก้ซึ่งจะประหยัดค่าเดินทางได้มากขึ้น สามารถซื้อได้ที่จุดจำหน่ายในสถานี TOBU-NIKKO หรือ JR NIKKO
8. คารุอิซาว่า (Karuizawa)
— จังหวัดนากาโน่ (Nagano)
( แผนที่)
เมืองคารุอิซาว่า (Karuizawa) เป็นเมืองตากอากาศบนภูเขาที่อยู่ไม่ไกลจากโตเกียวซึ่งได้รับความนิยมสำหรับมาเที่ยวพักผ่อนและทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น เดินเที่ยวย่านถนน Kyu-karuizawa Ginza ชมน้ำตก Shiraito Falls ซึ่งมีความสูง 3 เมตรและกว้างถึง 70 เมตร เล่นสกีที่ Karuizawa Prince Ski Resort และแวะช้อปปิ้งที่เอาท์เล็ท Karuizawa Prince Shopping Plaza
ตัวอย่างการเดินทางด้วย TOKYO Wide Pass
- นั่งรถไฟความเร็วสูงสาย Hokuriku Shinkansen HAKUTAKA จากสถานี TOKYO หรือ UENO มาลงที่สถานี KARUIZAWA ใช้เวลาประมาณ 60 – 70 นาที
9. ยูซาว่า (Yuzawa)
— จังหวัดนีกาตะ (Niigata)
( แผนที่)
ยูซาว่า (Yuzawa) เป็นเมืองที่ตั้งของ Gala Yuzawa Snow Resort ซึ่งเป็นสกีรีสอร์ทยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวโตเกียวในช่วงกลางเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนพฤษภาคม เพราะสามารถเดินทางได้สะดวกโดยรถไฟชินคันเซ็นจากโตเกียวไปยังรีสอร์ทได้เลยโดยไม่ต่อรถให้เสียเวลา และหลังจากเล่นสกีเสร็จแล้วก็ยังสามารถนั่งรถบัสฟรีไปเดินเที่ยวในเมืองเอจิโกะ ยูซาว่า (Echiko Yuzawa) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากรีสอร์ทได้อีกด้วยค่ะ
ตัวอย่างการเดินทางด้วย TOKYO Wide Pass
- นั่งรถไฟความเร็วสูงสาย Joetsu Shinkansen TANIGAWA จากสถานี TOKYO หรือ UENO มาลงที่สถานี GALA YUZAWA ใช้เวลาประมาณ 80 – 90 นาที
หมายเหตุ
- สถานี GALA YUZAWA เปิดให้บริการเฉพาะช่วงฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิ
- TOKYO Wide Pass สามารถใช้เป็นส่วนลดใน Gala Yuzawa Snow Resort ได้
10. คุซัทสึ (Kusatsu)
— จังหวัดกุนมะ (Gunma)
( แผนที่)
เมืองคุซัทสึเป็นเมืองจังหวัดกุนมะ (Gunma) ที่มีชื่อเสียงมากเรื่องบ่อออนเซ็นซึ่งเชื่อกันว่าช่วยรักษาโรคได้ โดยมีแลนมาร์คที่สำคัญคือ Yubatake ซึ่งเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่อยู่ใจกลางเมือง นักท่องเที่ยวสามารถลองแช่ออนเซ็นสาธารณะได้ หรือจะเข้าพักในเรียวกังซึ่งเป็นโรงแรมสไตล์ญี่ปุ่นโบราณที่มีบ่อออนเซ็นก็ได้
ตัวอย่างการเดินทางด้วย TOKYO Wide Pass
- นั่งรถไฟความเร็วสูง Joetsu Shinkansen หรือ Hokuriku Shinkansen จากสถานี TOKYO หรือ UENO มาลงที่สถานี TAKASAKI ใช้เวลาประมาณ 40 – 60 นาที แล้วเปลี่ยนเป็นรถไฟสาย JR Agatsuma Line มาลงที่สถานี NAGANOHARA-KUSATSUGUCHI ใช้เวลาประมาณ 80 นาที จากนั้นต้องต่อรถบัส JR มายัง Kusatsu Onsen ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
หมายเหตุ
- ต้องเสียค่ารถบัสเพิ่มระหว่าง สถานี NAGANOHARA-KUSATSUGUCHI และ Kusatsu Onsen ประมาณ 700 เยน
11. คาวาซุ (Kawazu)
— จังหวัดชิซึโอกะ (Shizuoka)
( แผนที่)
เมืองคาวาซุตั้งอยู่ในแถบคาบสมุทรอิซุ (Izu Peninsula) ในจังหวัดชิซึโอกะ (Shizuoka) เมืองนี้มีชื่อเสียงมากในเรื่องของเทศกาลดอกซากุระคาวาซุ (Kawazu Cherry Blossom Festival) ซึ่งเป็นซากุระที่บานเร็วที่สุดในพื้นที่แถบใกล้เคียงกับโตเกียว จะมีงานในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนมีนาคม (ปกติแล้วซากุระในแถบนี้จะบานประมาณปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน)
ตัวอย่างการเดินทางด้วย TOKYO Wide Pass
- นั่งรถไฟสาย JR Limited Express Super View Odoriko หรือสาย JR Limited Express Odoriko จากสถานี TOKYO มาลงที่สถานี ITO แล้วต่อรถไฟสาย Izu Kyuko Line มาลงที่สถานี KAWAZU ใช้เวลาประมาณ 160 นาที
หมายเหตุ
- TOKYO Wide Pass สามารถนั่งรถไฟสาย JR ได้ฟรีจนถึงสถานี ITO ไม่สามารถนั่งยาวจนถึงสถานี KAWAZU
- TOKYO Wide Pass สามารถนั่งรถไฟสาย Izu Kyuko Line ได้ฟรี
12. นาริตะ (Narita)
— จังหวัดจิบะ (Chiba)
( แผนที่)
เมืองนาริตะ (Narita) เป็นเมืองที่อยู่ใกล้กับสนามบินนาริตะ (Narita International Airport) ซึ่งเป็นหนึ่งในสนามบินหลักสำหรับผู้ที่เดินทางมายังโตเกียว ภายในเมืองนาริตะนี้มีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญคือ Naritasan Shinshoji Temple หรือที่เรียกกันว่า วัดนาริตะซัน และยังสามารถแวะช้อปปิ้งบริเวณถนนทางไปวัด รวมทั้งทานข้าวหน้าปลาไหลที่ร้านชื่อดังของเมือง
ตัวอย่างการเดินทางด้วย TOKYO Wide Pass
- นั่งรถไฟสาย JR Sobu/Narita Line Rapid จากสถานี NARITA AIRPORT TERMINAL 1 หรือ 2 มาลงที่สถานี NARITA ใช้เวลาประมาณ 10 – 15 นาที
- นั่งรถไฟสาย JR Sobu/Narita Line Rapid จากสถานี TOKYO มาลงที่สถานี NARITA ใช้เวลาประมาณ 80 นาที
- นั่งรถไฟสาย Narita Express (NEX) จากสถานี TOKYO มาลงที่สถานี NARITA ใช้เวลาประมาณ 50 นาที (บางขบวนไม่จอดที่สถานี NARITA ให้นั่งสาย JR Sobu/Narita Line Rapid ย้อนจากสถานีที่สนามบินนาริตะ)
นอกจากการนั่งรถไฟ JR ภายในโตเกียวไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ เช่น อุเอโนะ (UENO), อากิฮาบาระ (Akihabara), ชิบูย่า (Shibuya), ฮาราจูกุ (Harajuku), ชินจูกุ (Shinjuku) รวมถึงการนั่งรถไฟ JR เดินทางไปยังเมืองต่าง ๆ รอบโตเกียวแล้ว ตั๋ว TOKYO Wide Pass ยังสามารถใช้เดินทางระหว่างสนามบินทั้ง 2 แห่ง ได้แก่ สนามบินนาริตะ (Narita International Airport) โดยสาย JR หรือ Narita Express (NEX) และสนามบินฮาเนดะ (Haneda) โดยสาย Tokyo Monorail ได้โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่มเลยค่ะ เพียงแค่เดินทางอยู่ในระหว่างที่ใช้ตั๋ว คนที่อยากใช้ตั๋วนี้ให้คุ้มค่า จึงควรวางแผนการท่องเที่ยวกันให้ดีนะคะ
ข้อมูลบัตร JR TOKYO Wide Pass
› ราคา : ผู้ใหญ่ (12 ปีขึ้นไป) 15,000 เยน, เด็ก (6 – 11 ปี) 7,500 เยน (ข้อมูล ณ เมษายน 2024)
› ระยะเวลาในการใช้งาน : 3 วันต่อเนื่องกัน
› สายรถไฟที่ใช้ได้ :
- JR East Lines ตลอดสาย
- Tokyo Monorail ตลอดสาย
- Izu Kyuko Line ตลอดสาย
- Fujikyu Railway ตลอดสาย
- Joshin Dentetsu Line ตลอดสาย
- Saitama New Urban Transit Line (New Shuttle) ระหว่างสถานี Omiya และ Railway Museum
- Tokyo Waterfront Area Rapid Transit Rinkai Line ตลอดสาย
- รถไฟ Limited Express ที่วิ่งระหว่าง JR East Line และ Tobu Railway Line (Nikko, Kinugawa,และ SPACIA Kinugawa) รวมถึงรถไฟ Local และ Rapid ที่วิ่งระหว่างสถานี Shimo-imaichi และTobu-nikko/Kinugawa-onsen
› สถานที่จำหน่าย :
- เว็บไซต์ JR-EAST Train Reservation (รับบัตรจริงได้ที่เครื่องจำหน่ายตั๋วที่มีเครื่องอ่านพาสปอร์ต หรือ Travel Service Center สถานีรถไฟของ JR)
- เครื่องจำหน่ายตั๋วที่มีเครื่องอ่านพาสปอร์ต หรือซื้อที่เคาน์เตอร์บริการของ Travel Service Center ในสถานีรถไฟของ JR
› ข้อจำกัดในการจำหน่าย : สามารถซื้อได้เฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มายังประเทศญี่ปุ่น (ต้องแสดงพาสปอร์ตตอนซื้อ)
› การใช้ตั๋ว :
- เวลาเข้าออกสถานีให้สอดบัตร JR TOKYO Wide Pass ที่ประตูตรวจตั๋วอัตโนมัติ (หากที่สถานีไม่มีประตูตรวจตั๋ว ให้แสดงบัตรกับนายสถานี)
- สามารถใช้ได้กับสาย JR แบบธรรมดา (Local) แบบด่วน (Limited Express, Express, Rapid) รถไฟชินคันเซ็น (Shinkansen) ทั้งแบบไม่จองที่นั่ง (Non-reserved Seat) และแบบจองที่นั่ง (Reserved Seat)
- ไม่สามารถใช้กับ Tokaido Shinkansen และ JR Buses
- หากใช้กับ Tohoku Shinkansen (ขบวน Hayabusa, Komachi, GranClass) จะต้องจ่ายค่าโดยสารเพิ่ม
- สามารถจองที่นั่งของรถไฟ Limited Express และ Shinkansen ได้ที่
- เว็บไซต์ JR-EAST Train Reservation
- Ticket Office (Midori-no-madoguchi)
- Travel Service Center ในสถานีรถไฟของ JR
- รถไฟขบวน Hayate, Narita Express, Super-view Odoriko, Nikko, Kinugawa, and SPACIA Kinugawa รวมถึงรถไฟเอกชนบางสายนั้นเป็นแบบต้องจองที่นั่งทุกที่ กรุณาตรวจสอบก่อนใช้บริการ
- หากเดินทางด้วยรถไฟสาย Tobu Line จะต้องออกหรือเข้าจากสถานีของ JR เท่านั้น
หมายเหตุ
JR TOKYO Wide Pass เป็นตั๋วเหมาจ่ายแบบใหม่ซึ่งเริ่มจำหน่ายเมื่อปี 2015 แทนที่ตั๋วเดิม คือ JR Kanto Pass ซึ่งได้เพิ่มเส้นทางในการใช้งานได้มากขึ้นกว่าเดิม
แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในญี่ปุ่น
- สถานที่ท่องเที่ยวในโตเกียว (Tokyo) ที่ต้องมา Check-in!
- สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองซัปโปโร (Sapporo) ที่ต้องมา Check-in!
- สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองโอซาก้า (Osaka) ที่ต้องมา Check-in!
- สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองเกียวโต (Kyoto) ที่ต้องมา Check-in!
- สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองนาโกย่า (Nagoya) ที่ต้องมา Check-in!
- สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองฟุกุโอกะ (Fukuoka) ที่ต้องมา Check-in!