ญี่ปุ่นถือเป็นประเทศหนึ่งที่เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการชมวิวมากเลยทีเดียว เพราะมีทั้งหอคอยและอาคารสูงมากมายที่มีชื่อเสียงและโดดเด่นในด้านจุดชมวิว โดยแต่ละแห่งนั้นก็มีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขายของที่ระลึกคอยให้บริการอยู่อย่างครบครัน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะมากสำหรับคนที่มาเยือนญี่ปุ่นค่ะ
ในบทความนี้ เราจะพาไปดูกันว่าว่าหอคอยและจุดชมวิวบนอาคารสูงในญี่ปุ่นมีแห่งไหนบ้างที่น่าไปเที่ยวชมค่ะ โดยขอแยกเป็น 2 ส่วนตามลักษณะของอาคาร และเรียงสถานที่โดยไล่จากเหนือลงมาทางใต้ของญี่ปุ่นนะคะ
10 หอคอยในญี่ปุ่น
1. หอคอยซัปโปโรทีวีทาวเวอร์ (Sapporo TV Tower)
— จังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido)
( แผนที่)

ซัปโปโรทีวีทาวเวอร์ (Sapporo TV Tower) ตั้งอยู่ในเมืองซัปโปโร (Sapporo) ใกล้กับสวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park) มีความสูง 150 เมตร ส่วนชั้นที่ชมวิวได้อยู่ที่ 90 เมตร เป็นจุดชมวิวที่ทำให้เห็นทัศนียภาพของสวนสาธารณะโอโดริ ถ้าอากาศดีสามารถมองเห็นไปได้ถึงทุ่งราบอิชิคาริ (Ishikari) และทะเลเลยค่ะ
เราสามารถชมวิวที่แตกต่างกันแต่ละฤดูกาลได้จากหอคอยซัปโปโรทีวีทาวเวอร์ ในช่วงฤดูหนาวตอนกลางคืนจะมีการประดับไฟทำให้เป็นจุดถ่ายรูปที่น่า Check-in มาก ๆ และสิ่งที่ดึงดูดคู่รักมากที่สุดคือ หลังจากจุดชมวิวปิดบริการแล้ว สามารถเช่าเหมาพื้นที่เพื่อชมวิวแบบส่วนตัวเป็นเวลา 30 นาทีได้ค่ะ เหมาะแก่การสวีทหรือเซอร์ไพร์สคู่รักมาก ๆ ค่ะ
⇒ การเดินทางมาซัปโปโรทีวีทาวเวอร์
- นั่งรถไฟใต้ดินสาย Namboku Line, Toho Line หรือ Tozai Line มาลงที่สถานี Odori แล้วต่อเดินอีกประมาณ 1 นาที
- นั่งรถไฟ JR มาลงที่สถานี Sapporo แล้วเดินต่ออีกประมาณ 15 นาที
2. หอคอยโกเรียวคาคุทาวเวอร์ (Goryokaku Tower)
— จังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido)
( แผนที่)

โกเรียวคาคุทาวเวอร์ (Goryokaku Tower) ตั้งอยู่ในเมืองฮาโกดาเตะ (Hakodate) ของจังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) เป็นหอคอยรูปทรง 5 เหลี่ยม สูง 107 เมตร สามารถมองเห็นทั้งเมืองฮาโกดาเตะได้แบบ 360 องศา และสามารถมองเห็นป้อมปราการโกเรียวคาคุ (Goryokaku Fort) หรือป้อมปราการรูปดาวได้อีกด้วย
ส่วนบริเวณโดยรอบคือสวนสาธารณะโกเรียวคาคุ (Goryokaku Park) ในฤดูใบไม้ผลิจะเต็มไปด้วยดอกซากุระบานสะพรั่ง เมื่อมองจากหอคอยจะเห็นดอกซากุระบานเป็นรูปดาวตามลักษณะป้อมปราการ จึงเป็นอีกจุดชมวิวที่ได้รับความนิยมค่ะ สำหรับฤดูอื่น ๆ ก็สามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันสวยงามได้นะคะ โดยในฤดูร้อนต้นไม้จะเป็นสีเขียวขจี ส่วนฤดูหนาวจะเป็นสีขาวของหิมะค่ะ
⇒ การเดินทางมาโกเรียวคาคุทาวเวอร์
- นั่งรถรางมาลงที่ป้าย Goyrokaku Koen Mae แล้วเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที
3. หอคอยโตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree)
— จังหวัดโตเกียว (Tokyo)
( แผนที่)

โตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree) มีความสูง 634 เมตร นับเป็นหอคอยกระจายสัญญาณโทรทัศน์และวิทยุที่สูงที่สุดในโลก ตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple) ในโตเกียว (Tokyo) ที่นี่มีจุดชมวิว 2 ชั้น คือ TEMBO DECK อยู่ที่ความสูง 350 เมตร และ TEMBO GALLERIA อยู่ที่ความสูง 450 เมตร
ส่วนบริเวณอาคารด้านล่างที่ชั้น 5 และ 6 เป็นที่ตั้งพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำสุมิดะ (SUMIDA AQUARIUM) และยังมีศูนย์การค้า TOKYO Solamachi ที่เต็มไปด้วยสินค้ามากมายให้เลือกซื้อกันเพลิน ๆ ทั้งเสื้อผ้าแฟชั่น ไปจนถึงสินค้าที่มาจากคาแรคเตอร์ตัวการ์ตูนชื่อดังอย่าง Rilakkuma และ Kitty เป็นต้นค่ะ
⇒ การเดินทางมาโตเกียวสกายทรี
- นั่งรถไฟใต้ดินสาย Tokyo Metro Hanzomon Line หรือ Toei Asakusa มาลงที่สถานี Oshiage แล้วเดินต่ออีกประมาณ 3 นาที
- นั่งรถไฟสาย Tobu SKYTREE Line มาลงที่สถานี Tokyo Skytree
4. หอคอยโตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower)
— จังหวัดโตเกียว (Tokyo)
( แผนที่)

โตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower) เป็นหอคอยกระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์อีกแห่งของโตเกียว และเป็นหอคอยชมวิวที่โดดเด่น มีความสูง 333 เมตร มีจุดชมวิว 2 แห่งที่ต่างระดับกัน คือ Main Observatory อยู่ที่ความสูง 150 เมตร และ Special Observatory อยู่ที่ความสูง 250 เมตร ซึ่งสามารถมองเห็นได้ทั้งเกาะโอไดบะ (Odaiba), สะพานสายรุ้ง (Rainbow Bridge) รวมถึงโตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree) และถ้าอากาศดีก็สามารถเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ด้วยค่ะ
ชั้นบนของหอคอยโตเกียวทาวเวอร์มีร้านขายของที่ระลึกและกล้องส่องทางไกลเพื่อชมวิวของเมือง ส่วนอาคารชั้นล่างของหอคอย ที่ชั้น 1 นั้นมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower Aquarium) รวมถึงร้านขายของที่ระลึกซึ่งมีที่ชั้น 2 และชั้น 3 – 5 ยังเป็นที่ตั้งของสวนสนุกโตเกียววันพีชทาวน์เวอร์ (Tokyo One Piece Tower) อีกด้วยค่ะ
⇒ การเดินทางมาโตเกียวทาวเวอร์
- นั่งรถไฟใต้ดินสาย Toei Oedo Line มาลงที่สถานี Akabanebashi แล้วเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที
- นั่งรถไฟใต้ดิน Toei Mita Line มาลงที่สถานี Onarimon แล้วเดินต่ออีกประมาณ 6 นาที
5. หอคอยโยโกฮาม่ามารีนทาวเวอร์ (Yokohama Marine Tower)
— จังหวัดคานากาว่า (Kanagawa)
( แผนที่)

โยโกฮาม่ามารีนทาวเวอร์ (Yokohama Marine Tower) สร้างขึ้นเพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 100 ปี เมืองโยโกฮาม่า (Yokohama) ในจังหวัดคานากาว่า (Kanagawa) เมื่อปี 1956 เดิมเคยเป็นประภาคารแต่ถูกยกเลิกเมื่อปี 2008 หอคอยแห่งนี้มีความสูง 106 เมตร และจุดชมวิวอยู่ที่ชั้น 29 และ 39 ซึ่งที่ชั้น 29 จะมีกระจกชมวิวอยู่ที่พื้นด้วยค่ะ
หอคอยโยโกฮาม่ามารีน ทาวเวอร์ มีหอสังเกตการณ์ ร้านค้า และร้านอาหาร เช่น ภัตตาคาร Tower Restaurant Yokohama ซึ่งมีทั้งบาร์และร้านอาหารอิตาลี ส่วนที่ชั้น 2 นั้นมี Marine Tower Shop ซึ่งเป็นร้านขายของที่ระลึกค่ะ
⇒ การเดินทางมาโยโกฮาม่ามารีนทาวเวอร์
- นั่งรถไฟสาย Minatomirai Line มาลงที่สถานี Motomachi-Chukagai แล้วเดินประมาณ 2 นาที
6. หอคอยนาโกย่าทีวีทาวเวอร์ (Nagoya TV Tower)
— จังหวัดไอจิ (Aichi)
( แผนที่)

นาโกย่าทีวีทาวเวอร์ (Nagoya TV Tower) เป็นหอคอยส่งสัญญาณโทรทัศน์แห่งแรกของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่เมืองนาโกย่า (Nagoya) ในจังหวัดไอจิ (Aichi) มีความสูง 180 เมตร มีจุดชมวิว 2 ชั้น ที่ความสูง 90 เมตร และ 100 เมตร วันที่อากาศดีสามารถมองเห็นเมืองได้โดยรอบและยังมองเห็นไปถึงเมืองที่อยู่ใกล้เคียงเลยทีเดียวค่ะ
จุดชมวิวของหอคอยนาโกย่าทีวีทาวเวอร์ ที่ความสูง 90 เมตรจะเป็นห้องกระจก มองเห็นวิวได้ 360 องศา ไฮไลต์คือเหมาะสำหรับคู่รักเพราะมีมุมที่นั่งแบบสองต่อสองไว้สวีทกันค่ะ ส่วนที่ความสูง 100 เมตรเหมาะสำหรับคนที่ชอบรับลมพร้อมชมวิว เพราะเป็นชั้นดาดฟ้าค่ะ ถ้าชมวิวเสร็จแล้วสามารถไปนั่งทานอาหารหรือดื่มกาแฟได้ที่ชั้นล่างสุดได้ค่ะ
⇒ การเดินทางมานาโกย่าทีวีทาวเวอร์
- นั่งรถถไฟใต้ดินสาย Higashiyama Line หรือ Meijo Line มาลงยังสถานี Sakae แล้วเดินต่อประมาณ 3 นาที
- นั่งรถไฟใต้ดินสาย Sakuradori Line มาลงที่สถานี Hisayaodori แล้วเดินต่อเพียง 1 นาที
หมายเหตุ
- นาโกย่าทีวีทาวเวอร์ได้ปิดทำการชั่วคราวเพื่อปรับปรุงตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม ปี ค.ศ. 2019 และมีกำหนดการเปิดอีกครั้งในช่วงเดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ. 2020
7. หอคอยซึเทนคาคุทาวเวอร์ (Tsutenkaku Tower)
— จังหวัดโอซาก้า (Osaka)
( แผนที่)

ซึเทนคาคุทาวเวอร์ (Tsutenkaku Tower) แห่งนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอซาก้าเลยค่ะ หอคอยมีความสูง 103 เมตร ส่วนจุดชมวิวอยู่ที่ระดับความสูง 88 เมตร สามารถมองเห็นวิวของเมืองโอซาก้ารวมถึงตึกอาเบโนะ ฮารุคัส (Abeno Harukas) ซึ่งเป็นตึกที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นค่ะ
นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิว Tenbo Paradise ที่ต้องจ่ายค่าเข้าชม 500 เยนค่ะ ซึ่งสามารถเหมาเช่าพื้นที่เพื่อความเป็นส่วนตัวได้ จึงทำให้เป็นจุดยอดนิยมในการที่คู่รักมาขอแต่งงานกันค่ะ อีกจุดที่น่าสนใจของหอคอยซึเทนคาคุทาวเวอร์คือ บิลลิเคนซัง ที่เป็นรูปปั้นหน้ายิ้มที่มีชื่อเสียงมากของญี่ปุ่นในฐานะเทพเจ้าที่ช่วยเรื่องการค้าขายค่ะ
⇒ การเดินทางมาซึเทนคาคุทาวเวอร์
- นั่งรถไฟใต้ดินสาย Sakaisuji Line มาลงที่สถานี Ebisucho แล้วเดินต่อประมาณ 3 นาที
- นั่งรถไฟใต้ดินสาย Midosuji Line มาลงที่สถานี Dobutsuen-Mae แล้วเดินต่อประมาณ 7 นาที
8. หอคอยเกียวโตทาวเวอร์ (Kyoto Tower)
— จังหวัดเกียวโต (Kyoto)
( แผนที่)

เกียวโตทาวเวอร์ (Kyoto Tower) มีความสูง 131 เมตร จัดเป็นสถาปัตยกรรมที่สูงที่สุดในเกียวโตเนื่องจากเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยวัดและศาลเจ้าเป็นส่วนมาก ตั้งอยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟเมืองเกียวโต (Kyoto) ชั้นล่างของหอคอยเป็นโรงแรม Kyoto Tower Hotel ส่วนจุดชมวิวอยู่ที่ความสูง 100 เมตร สามารถมองรอบด้านได้แบบ 360 องศา ทำให้เห็นสถานี Kyoto และรถไฟชิงคันเซ็น และสามารถมองเห็นเมืองโอซาก้าที่อยู่ใกล้เคียงได้ด้วยค่ะ
นอกจากนี้ยังมีหลายส่วนที่น่าสนใจบนหอคอยเกียวโตทาวเวอร์ คือร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกซึ่งเต็มไปด้วยขนมขึ้นชื่อของเกียวโต และยังมีสิ่งที่หอคอยอื่นไม่มีคือ ที่ชั้นใต้ดินมีโรงอาบน้ำแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น (Sento) ด้วยค่ะ ซึ่งปัจจุบันโรงอาบน้ำแบบนี้มีเหลืออยู่ไม่กี่แห่งในญี่ปุ่นแล้วค่ะ
⇒ การเดินทางมาเกียวโตทาวเวอร์
- นั่งรถไฟ JR มาลงสถานี Kyoto แล้วเดินอีกประมาณ 2 นาที
9. หอคอยโกเบพอร์ตทาวเวอร์ (Kobe Port Tower)
— จังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo)
( แผนที่)

โกเบพอร์ตทาวเวอร์ (Kobe Port Tower) ตั้งอยู่ที่เมืองโกเบ (Kobe) ในจังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo) หอคอยแห่งนี้มีความสูงอยู่ที่ 108 เมตร รูปทรงเป็นแบบไฮเปอร์โบล่า คือตรงกลางคอดเว้าคล้ายกับกลองซึซึมิ มีสีแดงสดใสโดดเด่น และตอนกลางคืนมีการประดับไฟที่สวยงามค่ะ ที่สำคัญคือเป็นอาคารเหล็กแห่งแรกของโลกที่มีอีกชื่อเรียกว่า Steel Tower Beauty ค่ะ เป็นหอคอยที่เราสามารถมองเห็นวิวเบื้องล่างจากพื้นที่ทำจากกระจกชนิดพิเศษได้อีกด้วยค่ะ
ในส่วนของร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกนั้นตั้งอยู่ที่ชั้นบนสุด ทั้งนี้มีคาเฟ่ที่หมุนเป็นวงกลมทุก 20 นาทีเพื่อให้เราสามารถชมวิวรอบเมืองโกเบได้อย่างเต็มที่ เราสามารถเห็นได้ทั้งท่าเรือของโกเบ ย่านการค้าอย่าง Sannomiya และ Motomachi รวมถึงจุดจอดเรือสำราญอย่าง Kobe Port Terminal ค่ะ
⇒ การเดินทางมาโกเบพอร์ตทาวเวอร์
- นั่งรถไฟใต้ดินสาย Kaigan Line มาลงสถานี Minatomotomachi แล้วเดินอีกประมาณ 5 นาที
10. หอคอยเบปปุทาวเวอร์ (Beppu Tower)
— จังหวัดโออิตะ (Oita)
( แผนที่)

เบปปุทาวเวอร์ (Beppu Tower) เป็นสถานีส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ในเมืองเบปปุ (Beppu) ของจังหวัดโออิตะ (Oita) มีความสูง 100 เมตร เราสามารถขึ้นไปชมวิวที่ชั้น 17 ซึ่งมีระดับความสูง 55 เมตร สามารถมองเห็นตัวเมืองได้แบบ 360 องศา
ทิวทัศน์ของเมืองเบปปุนั้นมีความสวยงามเนื่องจากมีด้านตะวันออกที่ติดทะเล ส่วนด้านที่เหลือนั้นโอบล้อมด้วยภูเขาซึรุมิ (Mount Tsurumi) ซึ่งเป็นภูเขาไฟขนาดใหญ่ รวมถึงเราสามารถมองเห็นอ่าวเบปปุ รีสอร์ทและออนเซ็นต่าง ๆ สมกับเป็นเมืองแห่งออนเซ็น ทั้งนี้ยังมีคาเฟ่ให้จิบกาแฟพร้อมชมวิว รวมถึงร้านของขายที่ระลึกให้ซื้อของฝากกลับบ้านอีกด้วยค่ะ
⇒ การเดินทางมาเบปปุทาวเวอร์
- นั่งรถไฟ JR มาลงสถานี Beppu แล้วเดินอีกประมาณ 10 นาที
10 จุดชมวิวบนอาคารสูงในญี่ปุ่น
11. อาคารชิบะพอร์ททาวเวอร์ (Chiba Port Tower)
— จังหวัดชิบะ (Chiba)
( แผนที่)

ชิบะพอร์ททาวเวอร์ (Chiba Port Tower) ในจังหวัดชิบะ (Chiba) เป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนมีความสูงอยู่ที่ 125 เมตร ภายนอกเป็นกระจกแก้วทั้งหมด ส่วนภายในมีเพียง 4 ชั้น สามารถชมวิวได้ที่ชั้นบนสุดได้แบบ 360 องศา ซึ่งสามารถมองเห็นได้ไกลถึงหอคอยโตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree) และ หอคอยโตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower) รวมถึงภูเขาไฟฟูจิ ในช่วงเทศกาลมีการตกแต่งไฟให้สวยงามเหมาะแก่การถ่ายรูป Check-in เลยทีเดียว
⇒ การเดินทางมาชิบะพอร์ททาวเวอร์
- นั่งรถไฟสาย Chibatoshi-Monorail หรือ Keiyo Line มาลงที่สถานี Chibaminato แล้วเดินต่ออีก 12 นาที
12. อาคารโมริทาวเวอร์ (Mori Tower)
— จังหวัดโตเกียว (Tokyo)
( แผนที่)

ว่ากันว่า โมริทาวเวอร์ (Mori Tower) ในรปปงงิฮิลส์ (Roppongi Hills) เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่สวยที่สุดของเมืองโตเกียว ที่นี่เป็นอาคารสำนักงานที่มีความสูง 238 เมตร มีจุดชมวิวชื่อ Tokyo City View อยู่ที่ชั้น 52 เราสามารถมองเห็นวิวรอบเมืองโตเกียวแบบ 360 องศา มองเห็นโตเกียวทาวเวอร์ อาคารศาลาว่าการกรุงโตเกียว สถานีโทรทัศน์ฟูจิบนเกาะโอไดบะ และภูเขาไฟฟูจิด้วยค่ะ หรือถ้าอยากชมวิวบนชั้น 54 ซึ่งเป็นชั้นดาดฟ้าสำหรับลานจอดเฮลิคอปเตอร์ก็สามารถซื้อตั๋วได้ที่ชั้น 52 ได้เลยค่ะ
⇒ การเดินทางมาโมริทาวเวอร์
- นั่งรถไฟใต้ดินสาย Tokyo Hibiya Line หรือ Toei Oedo Line มาลงที่สถานี Roppongi แล้วเดินอีกประมาณ 5 – 10 นาที
13. อาคารศาลาว่าการกรุงโตเกียว (Tokyo Metropolitan Government Building)
— จังหวัดโตเกียว (Tokyo)
( แผนที่)

อาคารศาลาว่าการกรุงโตเกียว (Tokyo Metropolitan Government Building) เป็นอาคารแฝดสูงที่ตั้งอยู่ในย่านชินจูกุ (Shinjuku) มีความสูง 243 เมตร จุดชมวิวแบ่งได้เป็นอาคารทิศเหนือกับอาคารทิศใต้ ซึ่งอยู่ที่ชั้น 45 เหมือนกันทั้งคู่ ความสูงอยู่ที่ 202 เมตร โดยอาคารทิศเหนือเหมาะชมวิวในยามค่ำคืน มองเห็นในส่วนของอ่าวโตเกียว ส่วนอาคารทิศใต้เหมาะชมวิวในเวลากลางวัน ถ้าอากาศดีสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิ ส่วนร้านอาหารจะเป็นร้านอาหารสไตล์ยุโรป และมีร้านขายของที่ระลึกให้เลือกซื้อด้วยค่ะ
⇒ การเดินทางมาศาลาว่าการกรุงโตเกียว
- นั่งรถไฟใต้ดินสาย Toei Oedo Line มาลงที่สถานี Tocho-mae แล้วเดินต่ออีกประมาณ 3 นาที
14. อาคารโยโกฮาม่าแลนด์มาร์คทาวเวอร์ (Yokohama Landmark Tower)
— จังหวัดคานากาว่า (Kanagawa)
( แผนที่)

อาคารโยโกฮาม่าแลนด์มาร์คทาวเวอร์ (Yokohama Landmark Tower) แน่นอนว่าที่นี่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองโยโกฮาม่า เพราะเป็นอาคารสูง 296 เมตรที่มีช็อปปิ้งมอลล์และร้านอาหารมากมาย ชั้น 52 – 67 เป็นโรงแรม Yokohama Royal Park Hotel ส่วนชั้น 69 มีจุดชมวิวที่เรียกว่า Sky Garden ซึ่งลิฟต์สำหรับเดินทางไปยังชั้นนี้มีความเร็ว 750 เมตรต่อนาที เป็นลิฟต์ที่เร็วที่สุดในญี่ปุ่น บริเวณโดยรอบของจุดชมวิวมีคาเฟ่ให้บริการ ทั้งนี้เหมาะกับคู่รักที่มาเดทกันเพราะมีเบาะคู่ติดริมหน้าต่างสำหรับชมวิวโดยเฉพาะ
⇒ การเดินทางมาโยโกฮาม่าแลนด์มาร์คทาวเวอร์
- นั่งรถไฟสาย Minatomirai Line มาลงที่สถานี Minatomirai แล้วเดินประมาณ 3 นาที
- นั่งรถไฟใต้ดินสาย Blue Line หรือ JR Negishi Line มาลงที่สถานี Sakuragicho แล้วเดินประมาณ 5 นาที
15. อาคารมิดแลนด์สแควร์ (Midland Square)
— จังหวัดไอจิ (Aichi)
( แผนที่)

อาคารมิดแลนด์สแควร์ (Midland Square) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองนาโกย่า (Nagoya) จังหวัดไอจิ (Aichi) มีความสูง 247 เมตร มีทั้งหมด 47 ชั้น เป็นอาคารสำนักงานของโตโยต้าพร้อมทั้งโชว์รูมจัดแสดงรถยนต์ขนาดใหญ่ ชั้นใต้ดินถึงชั้น 4 เป็นศูนย์การค้าที่มีร้านแบรนด์เนม ร้านอาหาร รวมถึงโรงภาพยนตร์ ส่วนจุดชมวิวคือ Sky Promenade ที่ชั้น 44 และ 46 ที่ระดับความสูงราว 220 เมตร ที่ชั้น 46 จะเป็นจุดชมวิวแบบหลังคาเปิดโล่ง กั้นด้วยผนังกระจกสูง สามารถชมวิวของเมืองนาโกย่าได้รอบทิศทางค่ะ
⇒ การเดินทางมามิดแลนด์สแควร์
- นั่งรถไฟ JR มาลงสถานี Nagoya แล้วเดินอีกประมาณ 5 นาที
16. อาคารอาเบะโนะ ฮารุคัส (Abeno Harukas)
— จังหวัดโอซาก้า (Osaka)
( แผนที่)

ด้วยความสูง 300 เมตร อาเบะโนะ ฮารุคัส (Abeno Harukas) ในเมืองโอซาก้า (Osaka) จึงนับเป็นอาคารที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ภายในอาคารมีทั้งสำนักงาน โรงแรม ร้านคาเฟ่ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ ศูนย์การค้า รวมถึงร้านขายของที่ระลึก ส่วนจุดชมวิวมีชื่อว่า Harukas 300 อยู่ที่ชั้น 60 สามารถชมวิวของเมืองโอซาก้าได้แบบ 360 องศา แถมยังมีมาสคอตสุดน่ารักอย่างเจ้าอาเบโนะแบร์ หรือหมีลายท้องฟ้า ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูป Check-in สวย ๆ ด้วยค่ะ
⇒ การเดินทางมาอาเบะโนะ ฮารุคัส
- นั่งรถไฟ Kintetsu มาลงที่สถานี osaka-Abenobashi แล้วเดินเชื่อมเข้าตึกได้เลย
- นั่งรถไฟใต้ดิน Midosuji Line หรือ Tanimachi Line หรือรถไฟ JR มาลงที่สถานี Tennoji แล้วเดินอีกประมาณ 2 นาที
17. อาคารอุเมดะสกาย (Umeda Sky Building)
— จังหวัดโอซาก้า (Osaka)
( แผนที่)

อาคารอุเมดะสกาย (Umeda Sky Building) ที่โอซาก้าแห่งนี้มีความสูง 173 เมตร ที่นี่เคยได้รับการจัดอันดับให้เป็น 20 อาคารที่มีชื่อเสียงของโลกจากนิตยสาร TIMES ด้วยนะคะ ส่วนจุดชมวิวของอาคารอุเมดะมีชื่อว่าสวนลอยฟ้า Kuchu-Teien Observatory สูง 170 เมตรอยู่บนชั้นดาดฟ้า ภายในอาคารเต็มไปด้วยสำนักงาน ร้านค้าต่าง ๆ รวมถึงโชว์รูม ฮอลล์สำหรับจัดงานต่าง ๆ ไปจนถึงโรงภาพยนตร์ ในส่วนของจุดชมวิวมีทั้งแบบนั่งมองผ่านกระจกใสในตัวอาคารกับออกไปเดินรับลมด้านนอกค่ะ
⇒ การเดินทางมาอุเมดะสกาย
- นั่งรถไฟ JR มาลงที่สถานี Osaka แล้วเดินอีกประมาณ 9 นาที
- นั่งรถไฟใต้ดิน Midosuji Line มาลงที่สถานี Umeda แล้วเดินอีกประมาณ 9 นาที
18. อาคารที่ว่าการประจำกรุงโอซาก้า (Osaka Prefectural Government Sakishima Building / Cosmo Tower)
— จังหวัดโอซาก้า (Osaka)
( แผนที่)

อาคารที่ว่าการประจำกรุงโอซาก้า (Osaka Prefectural Government Sakishima Building) แห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของย่านคอสโมสแควร์ Cosmo Square) โดยมีความสูง 256 เมตร สำหรับจุดชมวิวอยู่ที่ความสูง 252 เมตร ที่ชั้น 55 ของอาคาร เราสามารถมองเห็นวิวผ่านกระจกแก้วได้รอบด้านถึง 360 องศา ทั้งอ่าวโอซาก้า สะพานแขวนอะคาชิไคเคียว (Akashi-kaikyou) ในจังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo) และถ้าอากาศดีสามารถมองเห็นสนามบินคันไซ รวมถึงเมืองโกเบเลยทีเดียว นอกจากนี้อาคารที่ว่าการประจำกรุงโอซาก้ามักมีอีเว้นท์ในช่วงวันเสาร์อาทิตย์หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์อีกด้วยนะคะ
⇒ การเดินทางมาที่ว่าการประจำกรุงโอซาก้า
- นั่งรถไฟสาย Nanko Port Town Line มาลงที่สถานี Trade Center แล้วเดินอีกประมาณ 3 นาที
19. อาคารไคเคียว ยูเมะทาวเวอร์ (Kaikyo Yume Tower)
— จังหวัดยามากุจิ (Yamaguchi)
( แผนที่)

อาคารไคเคียว ยูเมะทาวเวอร์ (Kaikyo Yume Tower) ตั้งอยู่ในเมืองชิโมโนเซกิ (Shimonoseki) ของจังหวัดยามากุจิ (Yamaguchi) อาคารนี้มีความสูง 153 เมตร จึงนับเป็นสถาปัตยกรรมที่สูงที่สุดในภาคตะวันออกของญี่ปุ่น จุดชมวิวของอาคารอยู่ที่ความสูง 143 เมตร สามารถชมวิวได้ 360 องศา เห็นทั้งทะเลญี่ปุ่น (Nihonkai), ทะเลเซโตะใน (Seto Naikai), ช่องแคบคันมง (Strait of Kanmon), เกาะกันริวจิมะ (Ganryujima) และเกาะคิวชู (Kyushu) ค่ะ ที่สำคัญอาคารแห่งนี้ได้รับเลือกเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับคู่รัก เพราะไฮไลต์ของที่นี่คือการชมวิวช่วงพระอาทิตย์ตกดินสู่ทะเลญี่ปุ่น เป็นภาพที่งดงามมากทีเดียวค่ะ
⇒ การเดินทางมาไคเคียว ยูเมะทาวเวอร์
- นั่งรถไฟ JR มาลงที่สถานี Shimonoseki แล้วเดินอีกประมาณ 10 นาที
20. อาคารฟุกุโอกะทาวเวอร์ (Fukuoka Tower)
— จังหวัดฟุกุโอกะ (Fukuoka)
( แผนที่)

อาคารฟุกุโอกะทาวเวอร์ (Fukuoka Tower) ในจังหวัดฟุกุโอกะ (Fukuoka) เป็นอีกจุดชมวิวยอดนิยมสำหรับคู่รัก เพราะมีจุดให้ถ่ายรูป Check-in มากมาย ทั้งนี้ยังมีให้คล้องกุญแจคู่รักเพื่อขอพรให้ได้รักกันยาวนานด้วยค่ะ ตัวอาคารมีความสูง 234 เมตร ภายนอกปูด้วยกระจก Half Mirror กว่า 8,000 บาน ทำให้เราสามารถเห็นอาคารแห่งนี้สะท้อนภาพท้องฟ้าออกมาสวยงาม สำหรับจุดชมวิวอยู่ที่ระดับความสูง 123 เมตร สามารถชมวิวเมืองฟุกุโอกะได้แบบ 360 องศา ถ้าวันไหนอากาศดีก็สามารถเห็นอ่าวฮากาตะด้วยค่ะ
⇒ การเดินทางมาฟุกุโอกะทาวเวอร์
- นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Nishijin แล้วเดินต่ออีกประมาณ 20 นาที หรือจะนั่งรถบัสหมายเลข 5 แล้วเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที
ส่งท้าย
ครบแล้วนะคะ กับ 20 จุดชมวิวบนหอคอยและอาคารสูงในญี่ปุ่น แน่นอนว่าแต่ละสถานที่ก็มีทิวทัศน์อันสวยงามแตกต่างกันไป ถ้าใครกำลังวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นอยู่ล่ะก็ อย่าลืมเลือกจุดชมวิวเหล่านี้เข้าไปในลิสต์สถานที่ที่จะไป Check-in ในญี่ปุ่นกันด้วยนะคะ
สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำในญี่ปุ่น
- สถานที่ท่องเที่ยวแลนด์มาร์คในญี่ปุ่นสำหรับ Check-in!
- วัดญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวและต้องมา Check-in!
- ศาลเจ้าญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวและต้องมา Check-in!
- ปราสาทญี่ปุ่นสวยๆ จากทั่วประเทศญี่ปุ่นที่ต้องมา Check-in!
- สวนสนุกในญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมและต้องมา Check-in!
- กระเช้าลอยฟ้าสำหรับชมวิวสวยๆ ในญี่ปุ่นที่ต้องมา Check-in!
- หอคอยและจุดชมวิวบนอาคารสูงในญี่ปุ่นที่ต้องมา Check-in!
- สถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวที่ต้องมา Check-in!
- แหล่งออนเซ็นยอดนิยมในญี่ปุ่น พร้อมวิธีการแช่ออนเซ็นที่ถูกต้อง
แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในญี่ปุ่น
- สถานที่ท่องเที่ยวในโตเกียว (Tokyo) ที่ต้องมา Check-in!
- สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองซัปโปโร (Sapporo) ที่ต้องมา Check-in!
- สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองโอซาก้า (Osaka) ที่ต้องมา Check-in!
- สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองเกียวโต (Kyoto) ที่ต้องมา Check-in!
- สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองนาโกย่า (Nagoya) ที่ต้องมา Check-in!
- สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองฟุกุโอกะ (Fukuoka) ที่ต้องมา Check-in!