สำหรับคนชอบชมวิวจากกระเช้าลอยฟ้า ประเทศญี่ปุ่นแทบจะเป็นสวรรค์ของคนรักการชมวิวเลยค่ะ เพราะมีกระเช้าลอยฟ้ามากมายหลายแห่ง และแต่ละแห่งก็มีวิวแตกต่างกันไป ตั้งแต่ป่าไม้และเทือกเขาอันสวยงาม ไปจนถึงทิวทัศน์สุดอลังการของเมือง แถมการรับชมในแต่ละฤดูก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันมาก
ว่าแล้วก็ไปดูกันดีกว่าค่ะว่า 10 กระเช้าลอยฟ้าในญี่ปุ่นต้องมา Check-in มีที่ไหนบ้าง ซึ่งเราจะแนะนำไล่จากเหนือลงไปทางใต้ของเกาะญี่ปุ่นนะคะ
10 กระเช้าลอยฟ้าในญี่ปุ่น
1. กระเช้าลอยฟ้าโมอิวะ (Mount Moiwa Ropeway)
— จังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido)
( แผนที่)
ภูเขาโมอิวะ (Mount Moiwa) ตั้งอยู่ที่เมืองซัปโปโร (Sapporo) ในจังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) มีความสูงถึง 531 เมตร ที่จุดชมวิวบนยอดเขาสามารถมองเห็นเมืองได้ทั้งเมือง นับเป็น 1 ใน 3 จุดชมวิวกลางคืนที่สวยงามที่สุดของญี่ปุ่นทีเดียวค่ะ โดยสามารถชมวิวระหว่างขึ้นไปบนยอดเขาด้วยกระเช้าลอยฟ้าโมอิวะ (Mount Moiwa Ropeway) ที่จะขึ้นไปที่ระดับความสูงถึง 3 ใน 4 ของภูเขาโมอิวะ จากนั้นจึงเปลี่ยนไปขึ้น มอร์ริสคาร์ (Morris Car) เพื่อขึ้นไปยังยอดเขาค่ะ
ยอดเขาโมอิวะถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ด้านความรัก เพราะมีทั้งระฆังแห่งโชคลาภ และกุญแจแห่งความรักที่คู่รักจะขึ้นมาสั่นระฆัง และเขียนชื่อคู่รักบนกุญแจและล็อกเอาไว้ที่นี่ ตามความเชื่อว่าจะไม่เลิกกันค่ะ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร The Jewel ที่กำแพงกรุด้วยกระจก สามารถชมวิวยามค่ำคืนพร้อมดินเนอร์กับคนรักแบบสุดแสนโรแมนติกได้เลยค่ะ
⇒ การเดินทางมากระเช้าลอยฟ้าโมอิวะ
- นั่งรถรางจากสถานีรถไฟ Susukino มาลงที่ป้าย Ropeway Iriguchi แล้วต่อ Shuttle (ฟรี)
2. กระเช้าลอยฟ้าฮาโกดาเตะ (Mount Hakodate Ropeway)
— จังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido)
( แผนที่)
เมืองฮาโกดาเตะ (Hakodate) เป็นเมืองที่มีความเป็นเอกลักษณ์ตรงที่ภูมิประเทศแบนเรียบ ตอนกลางคืนสามารถมองเห็นแสงไฟจากเมืองและแนวเส้นโค้งระหว่างช่องแคบสึงารุ (Tsugaru Strait) และท่าเรือฮาโกดาเตะ (Port of Hakodate) ถ้าขึ้นกระเช้าลอยฟ้าไปชมวิวแนะนำให้ขึ้นช่วงใกล้พระอาทิตย์ตกดินค่ะ จะได้เห็นทั้งวิวที่สวยงามช่วงพระอาทิตย์ตก และช่วงกลางคืนเลยค่ะ
ภูเขาฮาโกดาเตะ (Mount Hakodate) มีความสูง 334 เมตร บนยอดเขามีหอชมวิว 3 ชั้น สามารถขึ้นกระเช้าลอยฟ้าฮาโกดาเตะ (Mount Hakodate Ropeway) ไปถึงได้ภายในเวลาประมาณ 3 นาที โดยกระเช้าจะรับคนได้ 125 คน และออกทุก 5-10 นาที บนกระเช้าลอยฟ้านี้ไม่มีที่นั่งนะคะ ดังนั้นสามารถจับจองที่ยืนริมหน้าต่างด้านหลังเพื่อชมวิวของเมืองได้อย่างจุใจ และบนหอชมวิวมีร้านขายของฝากให้เลือกซื้อ และร้านอาหารที่สามารถรับประทานไปชมวิวไปเพลินๆ ค่ะ
⇒ การเดินทางมากระเช้าลอยฟ้าฮาโกดาเตะ
- นั่งรถรางจากสถานีรถไฟ Hakodate มาลงที่ป้าย Jujigai แล้วเดินต่อประมาณ 10 นาที
3. กระเช้าลอยฟ้าซาโอะ (Zao Ropeway)
— จังหวัดยามากาตะ (Yamagata)
( แผนที่)
ภูเขาซาโอะ (Mount Zao) ในจังหวัดมิยะงิ (Miyagi) และ จังหวัดยามากาตะ (Yamagata) ของภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) ได้รับการขนานนามว่าเป็นเทือกเขาแห่งปีศาจหิมะ (Snow Monster) เพราะในฤดูหนาวจะมีปรากฏการณ์ต้นไม้นับหมื่นต้นถูกปกคลุมด้วยหิมะ และมีรูปร่างหน้าตาแปลกประหลาดคล้ายปีศาจ ซึ่งในกลางคืนจะมีการจัดแสงหลากสีให้ยิ่งดูสนุกค่ะ สามารถรับชมได้ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนมีนาคม
การขึ้นกระเช้าลอยฟ้าซาโอะ (Zao Ropeway) เพื่อชมเจ้าปีศาจหิมะเหล่านี้เป็นสิ่งที่พลาดไม่ได้อย่างยิ่งนะคะ โดยกระเช้าจะมีสองสาย คือสาย Sanroku Line ที่รับผู้โดยสารได้ 53 คน ใช้เวลา 7 นาที และสาย Sancho Line ที่รับได้ 18 คน ใช้เวลา 10 นาที ซึ่งนอกจากฤดูหนาวแล้ว ฤดูอื่นก็สามารถมาเยี่ยมชมได้ เพราะมีความงดงามไม่แพ้กันทีเดียวค่ะ
⇒ การเดินทางมากระเช้าลอยฟ้าซาโอะ
- นั่งรถบัส Yamako Bus จากสถานี Yamagata มาลงที่ Zao Onsen BT ใช้เวลาประมาณ 40 นาที
4. กระเช้าลอยฟ้าอะเคจิไดระ (Akechidaira Ropeway)
— จังหวัดโทชิงิ (Tochigi)
( แผนที่)
ใครมาเที่ยวเมืองนิกโก (Nikko) ในจังหวัดโทชิงิ (Tochigi) เพื่อชมธรรมชาติ รับรองว่าไม่ผิดหวังค่ะ เพราะเป็นเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก มีความอุดมสมบูรณ์มากทั้งป่า ทะเลสาบ น้ำตก และลำธาร ซึ่งกระเช้าลอยฟ้าอะเคจิไดระ (Akechidaira Ropeway) เป็นจุดชมวิวที่ถือว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งของนิกโกค่ะ โดยสามารถชมทิวทัศน์อันสวยงามทั้ง ทะเลสาบชูเซนจิ (Lake Chuzenji), น้ำตกเคกอน (Kegon Falls) และภูเขานันไต (Mount Nantai)
การขึ้นกระเช้าลอยฟ้าใช้เวลาสั้น ๆ เท่านั้นค่ะ คือ 3 นาที แต่ถือว่าเป็น 3 นาทีที่คุ้มค่า หลังจากนั้นก็จะมาถึงจุดชมวิวที่เป็นลานกว้าง สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้รอบถึง 360 องศา ซึ่งถ้าอากาศดีก็จะสามารถมองเห็นทัศนียภาพทั้งหมด และช่วงที่แนะนำให้มาชมก็คือช่วงใบไม้เปลี่ยนสีค่ะ
⇒ การเดินทางมากระเช้าลอยฟ้าอะเคจิไดระ
- นั่งรถบัสจากสถานี Tobu Nikko หรือ JR Nikko มาลงที่ป้าย Akechidaira
5. กระเช้าลอยฟ้าสายฮาโกเน่ (Hakone Ropeway)
— จังหวัดคานากาว่า (Kanagawa)
( แผนที่)
ของขึ้นชื่อเมืองฮาโกเน่ (Hakone) ในจังหวัดคานากาว่า (Kanagawa) จะเป็นอะไรไม่ได้นอกจากหุบเขานรกซึ่งมีภูเขาไฟที่มีควันพวยพุ่งออกมาตลอดเวลา เป็นแหล่งกำเนิดย่านบ่อน้ำร้อนโนโบริเบ็ตสึที่ขึ้นชื่อว่าเป็นออนเซ็นน้ำแร่กำมะถัน ถ้าขึ้นกระเช้าลอยฟ้าฮาโกเน่จะสามารถเห็นวิวของหุบเขานรกได้ 360 องศาเลยค่ะ
กระเช้าลอยฟ้ามีสองเส้นทางคือ Sounzan – Owakudani และ Owakudani – Togendai แต่ละเส้นทางใช้เวลาประมาณ 8 นาที และ 16 นาทีตามลำดับ สามารถจุคนได้ประมาณ 18 คน ซึ่งกระเช้าทั้งสองจะผ่านป่าอุทยานแห่งชาติฮาโกเน่และหุบเขานรก จากนั้นจะมาลงที่จุดเปลี่ยนรถกระเช้าตรงสถานี Owakudani หรือสถานีบ่อน้ำแร่กำมะถัน ที่มีจุดขายของและจุดชิมไข่ดำที่เกิดจากการต้มในบ่อน้ำแร่กำมะถันค่ะ
⇒ การเดินทางมากระเช้าลอยฟ้าสายฮาโกเน่
- นั่งรถ Hakone Tozan Cable Car จากสถานี Gora มาลงที่สถานี Sounzan เพื่อมาขึ้นกระเช้า
หมายเหตุ
- ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ 19 พฤษภาคม 2019) เนื่องจากมีการยกระดับการจับตาเฝ้าระวังภัยจากภูเขาไฟฮาโกเนะที่อาจปะทุ ทำให้กระเช้าลอยฟ้าสายฮาโกเน่งดให้บริการตลอดทั้งเส้นทาง
6. กระเช้าลอยฟ้าคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko Mt. Fuji Panorama Ropeway)
— จังหวัดยามานาชิ (Yamanashi)
( แผนที่)
กระเช้าลอยฟ้าคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko Mt. Fuji Panorama Ropeway) เดิมมีชื่อว่า กระเช้าลอยฟ้าคาจิคาจิ (Mt. Kachi Kachi Ropeway) เป็นกระเช้าสำหรับขึ้นภูเขาเทนโจ (Mount Tenjo) ใกล้กับทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Lake Kawaguchiko) ในจังหวัดยามานาชิ (Yamanashi) ระหว่างขึ้นกระเช้าจะเห็นทะเลสาบอันสวยงาม ใช้เวลาประมาณ 3 นาทีก็จะถึงจุดชมวิวที่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,075 เมตร สามารถชมวิวได้ 360 องศา และเห็นภูเขาไฟฟูจิที่อยู่ฝั่งตรงข้ามได้ด้วยนะคะ
บนจุดชมวิวมีร้านน้ำชา Tanuki Chaya และของกินเล่นอย่างไก่ทอดคาราอาเกะ โคร็อกเกะ รวมถึง Tanuki Dango และโซนขายของที่ระลึก สังเกตไหมคะว่าของกินแต่ละอย่างจะมีคำว่าทานุกิอยู่ในชื่อ เพราะที่นี่มีตำนานพื้นบ้านชื่อเรื่อง Kachi Kachi Yama ที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับทานุกิที่แกล้งตายายจนโดนกระต่ายลงโทษ ทำให้บริเวณโดยรอบมีการประดับประดาด้วยตุ๊กตาทานุกิและตุ๊กตากระต่าย รวมถึงมีศาลเจ้ากระต่ายด้วยนะคะ
⇒ การเดินทางมากระเช้าลอยฟ้าคาวากุจิโกะ
- นั่งรถบัส Kawaguchiko Sightseeing Bus (Red Line) มาลงที่ป้าย Sightseeing Boat/Ropeway Ent.
7. กระเช้าลอยฟ้าชินโฮทากะ (Shin-Hotaka Ropeway)
— จังหวัดกิฟุ (Gifu)
( แผนที่)
ใครอยากจะมาเห็นความงดงามของยอดเขาโอคุโฮตาเกะดาเกะ (Oku-Hotakedake) ที่สูงเป็นอันดับสามของญี่ปุ่น แนะนำให้มาขึ้นกระเช้าลอยฟ้าชินโฮทากะ (Shin-Hotaka Ropeway) ในจังหวัดกิฟุ (Gifu) ช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม เพราะจะมีหิมะปกคลุมสวยงาม จนเทือกเขาบริเวณดังกล่าวถูกเรียกว่าเจแปนแอลป์เลยค่ะ
กระเช้าลอยฟ้าชินโฮทากะสามารถแบ่งการเดินทางได้เป็น 2 ช่วง ช่วงแรกระยะทาง 200 เมตร จากสถานี Shinhotaka ไปหยุดที่สถานี Nabedaira Kogen ซึ่งมีทั้งออนเซ็น ห้องอาบน้ำสาธารณะ ร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึก ซึ่งสถานีนี้รถยนต์ส่วนตัวเข้าถึงได้ค่ะ และเมื่อขึ้นกระเช้าช่วงที่ 2 จะเดินทางไปต่ออีกประมาณ 800 เมตร ไต่ระดับความสูงถึงราวๆ 2,150 เมตร ก็จะถึงสถานี Nishiotakaguchi ที่เป็นจุดชมวิวแบบลานโล่งกว้าง มองเห็นได้รอบ 360 องศาทีเดียว ถ้ามาในช่วงฤดูอื่นจุดนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นเส้นทางเดินป่าอีกด้วยนะคะ
⇒ การเดินทางมากระเช้าลอยฟ้าชินโฮทากะ
- นั่งรถบัสจาก Takayama Nohi Bus Center มาลงที่ป้าย Shin-Hotaka Ropeway
8. กระเช้าลอยฟ้าทาเทยาม่า (Tateyama Ropeway)
— จังหวัดโทยาม่า (Toyama)
( แผนที่)
ชมความงามของเจแปนแอลป์ในฤดูหนาวด้วยกระเช้าลอยฟ้าชินโฮทากะ (Shin-Hotaka Ropeway) ไปแล้ว ก็ลองมาชมความงามของเจแปนแอลป์ช่วงที่ต้นไม้เขียวขจีในฤดูร้อน และเปลี่ยนเป็นสีส้มแดงในฤดูใบไม้ร่วงกันบ้างดีกว่าค่ะ ด้วยกระเช้าลอยฟ้าทาเทยาม่า (Tateyama Ropeway) บนเทือกเขาทาเทยาม่า (Mount Tateyama) ที่จังหวัดโทยาม่า (Toyama)
กระเช้าลอยฟ้าทาเทยาม่ามีระยะเดินทางราว 1,710 เมตร ใช้เวลาข้าม 7 นาที โดยกระเช้าจะเปิดให้บริการตั้งแต่ประมาณปลายเดือนมีนาคมถึงช่วงเดือนพฤศจิกายน ส่วนฤดูหนาวจะปิดให้บริการเพราะหิมะตกทับถมสูง ในช่วงฤดูร้อนจะได้เห็นความเขียวขจีของป่าสนดึกดำบรรพ์แซมสลับกับดอกไม้หลายสี และถ้าใครอยากเห็นใบไม้เปลี่ยนสีแนะนำให้มาช่วงปลายเดือนกันยายนถึงกลางเดือนตุลาคมค่ะ
⇒ การเดินทางมากระเช้าลอยฟ้าทาเทยาม่า
กระเช้าลอยฟ้าทาเทยาม่าอยู่ในเส้นทางท่องเที่ยว Tateyama Kurobe Alpine Route ซึ่งอยู่ระหว่างสถานี Dentetsu Toyama ในจังหวัดโทยาม่า (Toyama) และสถานี Shinano Omachi ในจังหวัดนากาโน่ (Nagano)
- ถ้ามาจากฝั่งจังหวัดโทยาม่า สามารถขึ้นกระเช้าได้ที่สถานี Daikanbo
- ถ้ามาจากฝั่งนากาโน่ สามารถขึ้นกระเช้าได้ที่สถานี Kurobedaira
9. กระเช้าลอยฟ้าชินโกเบ (Shin-Kobe Ropeway)
— จังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo)
( แผนที่)
เมืองโกเบ (Kobe) ในจังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo) นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องเนื้อวัวโกเบแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอย่าง สวนสมุนไพรนูโนะบิกิ (Nunobiki Herb Garden) บน ภูเขารอคโค (Mount Rokko) ที่เปิดให้เยี่ยมชมตลอดปี ทั้งกลางวันและกลางคืน และยังสวนสมุนไพรที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นเลยค่ะ เพราะมีสมุนไพรที่มากมายถึง 75,000 สายพันธุ์ และดอกไม้กว่า 200 ชนิด แถมยังมีคาเฟ่น่ารัก ๆ ที่เสิร์ฟชาสมุนไพรและของหวานอร่อยๆ อย่าง Mint Café ด้วยนะคะ
เราสามารถขึ้นกระเช้าลอยฟ้าชินโกเบ (Shin-Kobe Ropeway) จากสถานี Herb Gardens Bottom เพื่อไปยังสถานี Herb Gardens Top ขึ้นเขาไปเยี่ยมชมสวนสมุนไพรแห่งนี้ได้ค่ะ ตัวกระเช้ามีขนาดไม่ใหญ่มาก มีความส่วนตัวค่อนข้างสูง สามารถนั่งได้ 4-6 คน ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีในการขึ้นเขา ระหว่างทางก็จะเห็นทิวทัศน์ของเมืองโกเบ และธรรมชาติอย่างต้นไม้เขียวขจี ทุ่งดอกไม้บนเนินเขาซึ่งสวยมาก ๆ ค่ะ
⇒ การเดินทางมากระเช้าลอยฟ้าชินโกเบ
- นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Shin-Kobe แล้วเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที
10. กระเช้าลอยฟ้านางาซากิ (Nagasaki Ropeway)
— จังหวัดนางาซากิ (Nagasaki)
( แผนที่)
เมืองนางาซากิ (Nagasaki) เป็นเมืองที่มีสถาปัตยกรรมแบบผสานวัฒนธรรมระหว่างจีนและยุโรป และยังขึ้นชื่อเรื่องจุดชมวิวที่ภูเขาอินาสะ (Mount Inasa) ที่สูงถึง 333 เมตร และเป็น 1 ใน 3 จุดชมวิวกลางคืนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น สามารถขึ้นไปโดยกระเช้าลอยฟ้านางาซากิ (Nagasaki Ropeway) ที่เป็นกระจกใสมองเห็นได้รอบถึง 360 องศา
จากจุดชมวิวเราจะเห็นได้ว่าเมืองนางาซากิอยู่ตรงบริเวณเชิงเขา แถมยังติดกับท่าเรือ ทำให้ดูเหมือนเป็นแก่ง เห็นได้ทั้งทัศนียภาพของเมืองที่ประดับประดาด้วยแสงไฟสวยงาม รวมไปถึงแม่น้ำป่าเขา แต่ถ้าจะมาชมวิวช่วงกลางคืนแนะนำให้มาตั้งแต่ช่วงเย็น เพราะจะได้เห็นวิวพระอาทิตย์ตกด้วยค่ะ
⇒ การเดินทางมากระเช้าลอยฟ้านางาซากิ
- นั่งรถรางจากสถานีรถไฟ Nagasaki มาลงป้าย Takaramachi Tram Stop จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 15 – 20 นาทีเพื่อไปขึ้นกระเช้าลอยฟ้าตรงสถานี Fuchi Shrine
- นั่งรถบัสจากสถานีรถไฟ Nagasaki มาลงที่ Nagasaki Ropeway Front แล้งเดินต่ออีกประมาณ 2 นาทีเพื่อไปขึ้นกระเช้าลอยฟ้าตรงสถานี Fuchi Shrine
ส่งท้าย
ครบแล้วกับ 10 กระเช้าลอยฟ้าชมวิวสวย ๆ ในญี่ปุ่นที่ต้องมา Check-in ไม่ว่าจะเลือกไปขึ้นกระเช้าลอยฟ้าที่ไหน หรือฤดูไหน ก็อย่าลืมเช็ควันเวลาเปิดปิด รวมถึงสภาพอากาศด้วยนะคะ เพราะถ้าฟ้าปลอดโปร่ง ก็จะได้เห็นวิวที่สวยงาม แสงสวย ไม่มีเมฆหมอกบัง ถ้าโชคดีก็อาจเห็นได้ไกลถึงเมืองอื่นเลยทีเดียว
สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำในญี่ปุ่น
- สถานที่ท่องเที่ยวแลนด์มาร์คในญี่ปุ่นสำหรับ Check-in!
- วัดญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวและต้องมา Check-in!
- ศาลเจ้าญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวและต้องมา Check-in!
- ปราสาทญี่ปุ่นสวยๆ จากทั่วประเทศญี่ปุ่นที่ต้องมา Check-in!
- สวนสนุกในญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมและต้องมา Check-in!
- กระเช้าลอยฟ้าสำหรับชมวิวสวยๆ ในญี่ปุ่นที่ต้องมา Check-in!
- หอคอยและจุดชมวิวบนอาคารสูงในญี่ปุ่นที่ต้องมา Check-in!
- สถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวที่ต้องมา Check-in!
- แหล่งออนเซ็นยอดนิยมในญี่ปุ่น พร้อมวิธีการแช่ออนเซ็นที่ถูกต้อง
แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในญี่ปุ่น
- สถานที่ท่องเที่ยวในโตเกียว (Tokyo) ที่ต้องมา Check-in!
- สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองซัปโปโร (Sapporo) ที่ต้องมา Check-in!
- สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองโอซาก้า (Osaka) ที่ต้องมา Check-in!
- สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองเกียวโต (Kyoto) ที่ต้องมา Check-in!
- สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองนาโกย่า (Nagoya) ที่ต้องมา Check-in!
- สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองฟุกุโอกะ (Fukuoka) ที่ต้องมา Check-in!