Home เที่ยวญี่ปุ่น 10 สวนสนุกในญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมและต้องมา Check-in!
สวนสนุกในญี่ปุ่น

10 สวนสนุกในญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมและต้องมา Check-in!

by Pikanoui
10272 views

การมาเที่ยวสวนสนุกในญี่ปุ่นนั้นถือเป็นกิจกรรมยอดนิยมก็ว่าได้ ซึ่งในญี่ปุ่นนั้นก็มีสวนสนุก (Theme Park) สุดมันส์และมีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกอยู่หลายแห่งเลยค่ะ วันนี้เราก็คัดสรรรายชื่อสวนสนุกในญี่ปุ่นมาให้แล้ว มาดูกันดีกว่าว่ามีที่ไหนบ้าง!

10 สวนสนุกในญี่ปุ่นที่ห้ามพลาด!

1. Universal Studios Japan

— จังหวัดโอซาก้า (Osaka)

( แผนที่)

สถานที่ห้ามพลาดอย่างแรง!!!…เมื่อได้มาเยือนประเทศญี่ปุ่นและนั่นก็คือ “Universal Studios Japan (ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์เจแปน)” หรือที่เรียกกันว่า “USJ” เป็นสวนสนุกชื่อดังในจังหวัดโอซาก้า (Osaka) และเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางของนักท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ค่ะ ที่นี่สามารถเพลิดเพลินกันได้ทั้งผู้ใหญ่และเด็กเล็ก ซึ่งจะแน่นขนัดไปด้วยคนญี่ปุ่นและชาวต่างชาติแทบทุกวันเลยค่ะ

Universal Studios Japan เปิดบริการตั้งแต่ปี ค.ศ. 2001 เป็นสวนสนุกที่มีการจำลองมาจากฉากของภาพยนตร์ชื่อดังในฮอลลีวูด ที่มีเครื่องเล่นอย่างหลากหลายให้นักท่องเที่ยวได้เลือกเล่นกันอย่างจุใจ ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ ค.ศ. 2019) ภายในสวนสนุกแบ่งออกเป็นโซนหลักๆ 9 โซน ได้แก่ Hollywood, New York, Minion Park, Universal Wonderland, San Francisco, Jurassic Park, Amity Village, Water World และ The Wizarding World of Harry Potter ซึ่งถือเป็นโซนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดค่ะ

ที่ Universal Studios Japan มีการจำหน่ายตั๋วหลายแบบ ซึ่งหลักๆ ก็คือ 1 DAY STUDIO PASS เป็นบัตรเข้าประตูพร้อมเล่นเครื่องเล่นใน 1 วัน และ Universal Express Pass ซึ่งเป็น ‘บัตรเบ่ง’ เดินเข้าช่องพิเศษไปเล่นเครื่องเล่นที่กำหนด ไม่ต้องต่อคิวนานค่ะ คนที่จะมาเที่ยวที่นี่สามารถนั่งรถไฟ JR Sakurajima Line มาลงสถานี Universal-City และเดินไปยังสวนสนุกได้เลยค่ะ

ราคาตั๋ว Universal Studios Japan

  • 1 DAY STUDIO PASS
    ผู้ใหญ่ (12 ปีขึ้นไป) 7,400 – 8,900 เยน, เด็ก (4 – 11 ปี) 5,100 – 6,100 เยน *ราคาตั๋วแตกต่างไปตามวันที่เข้าชม
  • Universal Express Pass
    ราคาขึ้นอยู่กับจำนวนเครื่องเล่นและวันที่ใช้งาน

2. Tokyo Disneyland

— จังหวัดโตเกียว (Tokyo)

( แผนที่)

ดินแดนมหัศจรรย์ที่ใครหลายคนใฝ่ฝันและจินตนาการถึง เพราะเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความสนุกที่มาพร้อมความสุขเมื่อได้มาเยือน ณ “Tokyo Disneyland (โตเกียวดิสนีย์แลนด์)” สวนสนุกขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของ “Tokyo Disney Resort (โตเกียวดิสนีย์รีสอร์ท)” ในจังหวัดชิบะ (Shiba) ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของโตเกียว (Tokyo)

การเดินทางก็ไม่ยากค่ะ โดยขึ้นรถไฟ JR Keiyo Line หรือ Musashino Line จากสถานี Tokyo มาลงที่สถานี Maihama แล้วเดินมายังสถานี Disney Resort Gateway เพื่อต่อสาย Disney Resort Line มาลงที่สถานี Tokyo Disneyland ค่ะ รวมแล้วใช้เวลาจากใจกลางโตเกียวประมาณ 25 นาทีเองค่ะ

ในแต่ละวันที่ Tokyo Disneyland ก็จะหนาแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเพื่อเข้าสวนสนุกแห่งนี้เป็นจำนวนมาก ที่นี่ได้เปิดทำการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1983 ภายในประกอบไปด้วยเครื่องเล่นต่าง ๆ มากมาย โรงละคร การแสดง ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก โดยจะแบ่งออกเป็น 7 โซน ได้แก่ World Bazaar, Adventureland, Westernland, Fantasyland, Critter Country, Toontown และ Tomorrowland


3. Tokyo DisneySea

— จังหวัดโตเกียว (Tokyo)

( แผนที่)

ขอเอาใจผู้ที่รักความตื่นเต้นท้าทายและชื่นชอบการผจญภัยเป็นที่สุด…ต้องไม่พลาดกับ Tokyo DisneySea (โตเกียวดิสนีย์ซี)” เป็นสวนสนุกที่เต็มไปด้วยเครื่องเล่นอันน่าตื่นตาตื่นใจ ให้ได้มันส์กันแบบจุใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ที่นี่ก็อยู่ในบริเวณ Tokyo Disney Resort (โตเกียวดิสนีย์รีสอร์ท)” เช่นกันค่ะ

Tokyo DisneySea เปิดให้บริการเมื่อปี ค.ศ. 2001 ภายในสวนสนุกแห่งนี้ส่วนใหญ่ถูกออกแบบให้มีพื้นที่น้ำมากกว่า เพื่อเน้นความตื่นเต้นและผจญภัยสำหรับนักท่องเที่ยว เครื่องก็จะเหมาะโลดโผนกว่าฝั่ง Tokyo Disneyland

ภายในสวนสนุกแบ่งออกเป็นโซนหลัก ๆ ได้ 7 โซน ได้แก่ Mediterranean Harbor, Mystery Island, Mermaid Lagoon, Arabian Coast, Port Discovery และ Lost River Delta อีกทั้งยังมีขบวนพาเหรดของเหล่าคาแรคเตอร์ตัวการ์ตูนจากเทพนิยายและตำนานแห่งท้องทะเลทั้งหลายให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันอีกด้วยค่ะ

สำหรับตั๋วเข้าชมสวนสนุกหลักๆ นั้นมีจำหน่ายแบบ 2 ประเภท คือ แบบ 1 DAY PASSPORT และ 2 DAY PASSPORT ซึ่งสามารถเลือกเข้าได้ระหว่าง Tokyo Disneyland หรือ Tokyo DisneySea ใน 1 วันค่ะ

ราคาตั๋ว Tokyo Disneyland & Tokyo DisneySea

  • 1 DAY PASSPORT
    ผู้ใหญ่ 7,400 เยน, ผู้สูงอายุ 6,700 เยน, เด็กมัธยม 6,400 เยน, เด็กประถม 4,800 เยน
  • 2 DAY PASSPORT
    ผู้ใหญ่ 13,200 เยน, เด็กมัธยม 11,600 เยน, เด็กประถม 8,600 เยน

4. Sanrio Puroland

— จังหวัดโตเกียว (Tokyo)

( แผนที่)

มาเพลิดเพลินกับบรรดาตัวการ์ตูนยอดฮิตของค่าย Sanrio ที่จะพาท่านหลุดเข้ามาอยู่ในโลกแห่งจินตนาการที่ “Sanrio Puroland (ซานริโอ พูโรแลนด์)” ในโตเกียว (Tokyo) สวนสนุกที่รวบรวมเอาตัวละครอันโด่งดังและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกอย่าง Hello Kitty, Little Twin Stars, My Melody, Pompompurin, Cinnamoroll, Jewelpet และตัวการ์ตูนน่ารักๆ อีกกว่า 400 ตัว ที่จะมาเดินพาเหรดท่ามกลางนักท่องเที่ยวที่รอคอยชื่นชมอยู่อย่างหนาแน่น

Sanrio Puroland เปิดให้บริการตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 เป็นต้นมา ถือเป็นสวนสนุกในร่มที่มีพื้นที่กว้างขวาง โดยประกอบไปด้วยเครื่องเล่นหลากหลายชนิด ร้านอาหาร ร้านจำหน่ายของที่ระลึกไว้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังสวนสนุกแห่งนี้นั่นเอง

ตั๋วเข้าชมที่นี่มี 2 แบบคือ WEEKDAY PASSPORT สำหรับใช้ในวันธรรมดา และ HOLIDAY PASSPORT สำหรับใช้ในวันหยุดค่ะ

ราคาตั๋ว Sanrio Puroland

  • WEEKDAY PASSPORT
    ผู้ใหญ่ (18 ปีขึ้นไป) 3,300 เยน, เด็ก (3 – 17 ปี) 2,500 เยน
  • HOLIDAY PASSPORT
    ผู้ใหญ่ (18 ปีขึ้นไป) 3,800 เยน, เด็ก (3 – 17 ปี) 2,700 เยน

5. Yokohama Hakkeijima Sea Paradise

— จังหวัดคานากาว่า (Kanagawa)

( แผนที่)

สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่อยู่ไม่ไกลจากโตเกียว เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบสัตว์น้ำและรักทะเลกับ “Yokohama Hakkeijima Sea Paradise (โยโกฮามา ฮักเกจิมา ซีพาราไดซ์)” พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและสวนสนุกที่อยู่บนเกาะตอนใต้ของเมืองโยโกฮามา (Yokohama) ในจังหวัดคานากาว่า (Kanagawa) หากมาจากสถานี Yokohama ก็ให้นั่งรถไฟสาย JR Negishi Line มาที่สถานี Shin-sugita แล้วเปลี่ยนเป็นสาย Seaside Line มาลงที่สถานี Hakkeijima นะคะ

Yokohama Hakkeijima Sea Paradise เปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวตั้งแต่ปี ค.ศ. 1993 เป็นต้นมา ที่นี่แบ่งพื้นที่หลัก ๆ ออกเป็น 3 ส่วน คือ โซน Aqua Resorts ซึ่งเป็นโซนสัตว์น้ำอยู่เป็นจำนวนมากกว่า 700 ชนิด ที่ประกอบด้วย Aqua Museum, Dolphin Fantasy และ The Fureai Lagoon ต่อมาเป็นโซน Pleasure Land ที่มีเครื่องเล่นให้ได้เลือกมากมาย และโซนสุดท้าย Umi Farm เป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับเด็กค่ะ ตลอดจนร้านอาหาร ร้านค้า ร้านจำหน่ายของที่ระลึก และโรงแรม ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณใกล้เคียงกัน

นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่นี่จะได้สัมผัสและชื่นชมสัตว์ทะเลแบบตื่นตาตื่นใจอย่างใกล้ชิดกันเลยทีเดียว โดยตั๋วเข้าชมนั้นมีหลัก ๆ 3 แบบ คือ ONE DAY PASS (Aqua Resorts Pass + Pleasure Land Pass), AQUA RESORTS PASS (Aquarium Pass) และ PLEASURE LAND PASS (Attraction Pass)

ราคาตั๋ว Yokohama Hakkeijima Sea Paradise

  • ONE DAY PASS
    ผู้ใหญ่ 5,050 เยน, ผู้สูงอายุ 3,600 เยน, เด็กประถม-มัธยมต้น 3,600 เยน, เด็ก 4 ขวบขึ้นไป 2,050 เยน
  • AQUA RESORTS PASS
    ผู้ใหญ่ 3,000 เยน, ผู้สูงอายุ 2,450 เยน, เด็กประถม-มัธยมต้น 1,750 เยน, เด็ก 4 ขวบขึ้นไป 850 เยน
  • PLEASURE LAND PASS
    ผู้ใหญ่ 3,000 เยน, ผู้สูงอายุ 3,000 เยน, เด็กประถม-มัธยมต้น 2,650 เยน, เด็ก 4 ขวบขึ้นไป 1,550 เยน

6. Fuji-Q Highland

— จังหวัดยามานาชิ (Yamanashi)

( แผนที่)

หากคุณชอบเครื่องเล่นแบบหวาดเสียว…เราขอแนะนำ “Fuji-Q Highland (ฟูจิคิวไฮแลนด์)” เป็นสวนสนุกที่ตั้งอยู่ในเมืองฟูจิโยชิดะ (Fujishiyoda) ของจังหวัดยามานาชิ (Yamanashi) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากภูเขาไฟฟูจิอีกด้วย สามารถเดินทางมาจากโตเกียวโดยรถไฟ JR จากสถานี Shinjuku แล้วเปลี่ยนเป็นสาย Fujikyu Railway มาลงที่สถานี Fuji-Q Highland นะคะ

Fuji-Q Highland ถือเป็นสวนสนุกที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ที่อื่น ๆ ในญี่ปุ่นเลย ก็เพราะที่นี่เค้าขึ้นชื่อในเรื่องของความหวาดเสียวของเครื่องเล่นหลายอย่างโดยเฉพาะรถไฟเหาะ Fujiyama, รถไฟเหาะหอคอยสูง Do-Dodonpa และรถไฟเหาะที่สูงชันที่สุดในโลก Takabisha ซึ่งใคร ๆ ก็อยากจะมาพิสูจน์กันนั่นเองค่ะ รวมไปถึงโซนอื่น ๆ ที่ต้องไปพิสูจน์ความกล้าอย่าง บ้านผีสิง Super Scary Labyrinth of Fear และเกมท้าทายแดนเขาวงกต Ultimate Fort

สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวที่สวนสนุกแห่งนี้แล้วต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า โหด! มันส์! แน่นอนค่ะ ที่นี่ไม่มีค่าเข้าสวนสนุกนะคะ มีแต่ค่าเครื่องเล่น ใครใจไม่กล้าพอ มาแค่เป็นกำลังใจให้เพื่อน ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่คุ้มค่ะ

ราคาตั๋ว Fuji-Q Highland

  • ค่าเข้าชม 0 เยน (เข้าฟรี)
  • ค่าเล่นเครื่องเล่น มีหลายราคาเริ่มตั้งแต่ 400 – 1,800 เยน

7. EDO WONDERLAND Nikko Edomura

— จังหวัดโทชิงิ (Tochigi)

( แผนที่)

ดินแดนมหัศจรรย์ของเหล่านักรบนินจาและซามูไรที่มีชื่อเสียงโด่งดังตั้งแต่ยุคเอโดะ “EDO WONDERLAND Nikko Edomura (เอโดะ วันเดอร์แลนด์ นิกโก เอโดะมูระ)” เป็นสวนสนุกที่มีรูปแบบแตกต่างไปจากสวนสนุกอื่น ๆ ตรงที่เป็นสวนสนุกย้อนยุคที่มีกลิ่นอายของญี่ปุ่นสมัยโบราณ และนักท่องเที่ยวสามารถแต่งกายย้อนยุคแบบสมัยเอโดะเพื่อเดินเที่ยวได้

โดยภายในสวนสนุกแห่งนี้จะประกอบไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก สถานที่จำลองต่าง ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงผู้คนในยุคนั้น พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง 2 แห่ง วัดผีสิง บ้านภาพลวงตา และวงกตนินจา รวมไปถึงการแสดงของนินจา มายากล และศิลปะการต่อสู้อีกมากมายให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันอย่างเพลิดเพลินตลอดทั้งวัน

EDO WONDERLAND Nikko Edomura นั้นตั้งอยู่ในเมืองนิกโก้ (Nikko) ของจังหวัดโทชิงิ (Tochigi) โดยสามารถเดินทางมาจากโตเกียวด้วยรถไฟสาย Tobu Kinugawa Line จากสถานี Tobu Asakusa หรือนั่งรถไฟด่วน Kingawa-go หรือ Spacia Kinugawa-go จากสถานี JR Shinjuku หรือ Ikebukuro มาลงที่สถานี Kinugawa-Onsen แล้วต่อรถบัสหรือแท็กซี่ รวมใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ

ราคาตั๋ว EDO WONDERLAND Nikko Edomura

  • One Day Pass
    ผู้ใหญ่ (13 ปีขึ้นไป) 4,700 เยน, เด็ก (6 – 12 ปี) 2,400 เยน
  • Afternoon Pass
    ผู้ใหญ่ (13 ปีขึ้นไป) 4,100 เยน, เด็ก (6 – 12 ปี) 2,100 เยน

8. LEGOLAND Japan

— จังหวัดไอจิ (Aichi)

( แผนที่)

พาเด็ก ๆ มาเปิดโลกจินตนาการที่ดินแดนสวนสนุกจากตัวต่อเลโก้ของญี่ปุ่น ณ “LEGOLAND Japan (เลโก้แลนด์ เจแปน)” สวนสนุกกลางแจ้งขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเมืองนาโกย่า (Nagoya) ของจังหวัดไอจิ (Aichi) ถือเป็นสวนสนุก LEGOLAND แห่งที่ 8 ของโลกอีกด้วยนะคะ

ขอบอกเลยว่า LEGOLAND Japan นี้เป็นสวนสนุกที่ใหม่แกะกล่องเลยทีเดียว ก็เพราะเพิ่งเปิดให้บริการเดือนเมษายน ปี ค.ศ. 2017 นี่เอง แน่นอนว่ามาสวนสนุกก็ต้องมีเครื่องเล่น ซึ่งที่นี่ก็มีให้เลือกกันกว่า 40 ชนิด รวมถึงการทำเวิร์คช็อปและชมเมืองจากเลโก้อีกด้วย โดยภายในสวนสนุกนั้นแบ่งออกเป็น 7 โซนหลัก ๆ ได้แก่ Factory, Bricktopia, Adventure, Knight’s Kingdom, Pirate Shores, Miniland และ Lego City โดยแต่ละโซนก็จะให้ความสนุกสนานเพลิดเพลินแตกต่างกันไป

สำหรับใครที่มีแพลนจะไปเที่ยวเมืองนาโกย่า ก็สามารถมาสนุกกันได้เลยค่ะ โดยนั่งรถไฟสาย Aonami Line จากสถานี Nagoya มาลงที่สถานี Kinjo-Futo ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีค่ะ

ราคาตั๋ว LEGOLAND Japan (ซื้อทางออนไลน์)

  • 1 Day Pass (Off-peak 7 days in Advance)
    ผู้ใหญ่ (12 ปีขึ้นไป) 4,500 เยน, เด็ก (3 ขวบขึ้นไป) 3,300 เยน
  • 1 Day Pass (Peak 7 days in Advance)
    ผู้ใหญ่ (12 ปีขึ้นไป) 5,500 เยน, เด็ก (3 ขวบขึ้นไป) 3,600 เยน

*ซื้อตั๋วล่วงหน้าก่อน 7 วันจะได้ลด 20%


9. Nagashima Spa Land

— จังหวัดมิเอะ (Mie)

( แผนที่)

อีกสุดยอดดินแดนมหัศจรรย์ของผู้ที่ชอบเที่ยวสวนสนุก เราขอแนะนำ “Nagashima Spa Land (นางาชิมะสปาแลนด์)เป็นสวนสนุกที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของ Nagashima Resort (นางาชิมะรีสอร์ท) ทางตอนเหนือของจังหวัดมิเอะ (Mie) แต่ว่าสามารถเดินทางมาได้สะดวกด้วยรถบัสต่อเดียวจากเมืองใหญ่อย่างนาโกย่า (Nagoya) ในจังหวัดไอจิ (Aichi) ด้วยค่ะ

สวนสนุก Nagashima Spa Land นั้นขึ้นชื่อในเรื่องของรถไฟเหาะตีลังกาสุดโหดที่อยู่ในระดับความสูงกว่า 97 เมตร รวมถึงเครื่องเล่นอื่น ๆ อีกกว่า 40 ชนิด ที่ทั้งตื่นเต้นเร้าใจและน่าหวาดเสียว รวมทั้ง Nagashim Jumbo Ocean Water Pool  สวนน้ำที่ใหญ่ที่สดุในญี่ปุ่นซึ่งจะเปิดให้บริการในช่วงฤดูร้อน ที่นี่จึงเป็นสวนสนุกขวัญใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติที่สามารถมาสนุกกันได้ทุกวัยค่ะ

นอกจากนี้บริเวณของ Nagashima Resort ยังประกอบไปด้วยโซนอื่น ๆ นอกจากสวนสนุก Nagashima Spa Land ได้แก่ ออนเซ็น Yuami no Shima, เอาท์เล็ท Mitsui Outlet Park Jazz Dream Nagashima, พิพิธิภัณฑ์ Anpanman Museum และสวนดอกไม้ Nabana no Sato เรียกได้ว่ามาเที่ยวที่เดียวคุ้มเลยค่ะ

ราคาตั๋ว Nagashima Spa Land

  • 1 Day Free Pass Ticket (Admission + unlimited rides)
    ผู้ใหญ่ 5,200 เยน, เด็กประถม 4,000 เยน, เด็ก 2 ขวบขึ้นไป 2,400 เยน, ผู้สูงอายุ 2,700 เยน
  • Entrance Ticket (Amission only)
    ผู้ใหญ่ 1,600 เยน, เด็กประถม 1,000 เยน, เด็ก 2 ขวบขึ้นไป 500 เยน

10. Huis Ten Bosch

— จังหวัดนางาซากิ (Nagasaki)

( แผนที่)

ปิดท้ายกันด้วยสวนสนุกที่เร้าใจไม่แพ้ที่อื่น…แต่ขอบอกเลยว่าไม่ธรรมดาแน่นอนกับ “Huis Ten Bosch (เฮาส์เทนบอช)” เป็นสวนสนุกขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดนางาซากิ (Nagasaki) ของภูมิภาคคิวชู (Kyushu) โดยมีบรรยากาศที่ได้กลิ่นอายของประเทศฮอลแลนด์ให้รู้สึกราวกับว่ามาเดินเล่นแถบยุโรปกันเลยทีเดียว

ภายในสวนสนุก Huis Ten Bosch แห่งนี้ประกอบด้วยโซนต่าง ๆ 7 โซน ได้แก่ Amsterdam City, Harbor Town, Tower City, Adventure Park, Flower Road, Attraction Town และ Thriller City ซึ่งมีทั้งเครื่องเล่นหลากหลายชนิด ทุ่งดอกไม้ ร้านค้า ร้านจำหน่ายของที่ระลึก ร้านอาหาร โรงแรม พิพิธภัณฑ์ และท่าเรือสไตล์ยุโรป รวมทั้งจุดถ่ายรูปสวย ๆ อีกมากมาย

สำหรับการเดินทางมายังสวนสนุกนั้นก็สะดวกสบายด้วยรถไฟ JR ทั้งจากสถานี Nagasaki และสถานี Hakata ในจังหวัดฟุกุโอกะ (Fukuoka) เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดสำหรับคนมาเที่ยวที่ภูมิภาคคิวชูนี้เลยค่ะ

ราคาตั๋ว Huis Ten Bosch

  • 1 DAY Passport (Admission +Attractions)
    ผู้ใหญ่ 7,000 เยน, เด็กโต (12 – 17 ปี)  6,000 เยน, เด็กเล็ก (4 – 11 ปี) 4,600 เยน, ผู้สูงอายุ 6,500 เยน

ส่งท้าย

คนที่จะมาเที่ยวสวนสนุกในญี่ปุ่น นอกจากจะต้องเตรียมงบค่าเข้าและค่าเล่นเครื่องเล่นต่าง ๆ แล้ว ยังต้องเผื่องบสำหรับของฝากทั้งหลายที่จะมายั่วเพื่อน ๆ ด้วยนะคะ

บทความนี้ได้เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ 28 เมษายน 2018 และมีการปรับปรุงเนื้อหาล่าสุด 25 กรกฎาคม 2019

บทความที่เกี่ยวข้อง